
เลซิตินผสมแคโรทีนอยด์ วิตามินสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ
ประโยชน์และสรรพคุณของเลซิตินผสมแคโรทีนอยด์4ชนิด และวิตามินอี ธรรมชาติ
เลซิตินเป็นสารที่มีประโยชน์หลากหลายและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ การรับประทานเลซิตินจากแหล่งอาหารธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างเหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน
เลซิติน ช่วยปกป้องตับ บำรุงตับ ได้จริงไหม? โดย พตท.นายแพทย์ มั่น อุดมพาณิชย์
สถิติผู้ป่วยโรคตับ โรคไขมันในเลือดสูงและโรคหลอดเลือด ในประเทศไทย
จากการรวบรวมและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถิติผู้ป่วยโรคตับ โรคไขมันในเลือดสูง และโรคหลอดเลือดในประเทศไทย มีดังนี้
- สถิติผู้ป่วยโรคตับในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ และมะเร็งตับ
- สถิติผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด ประมาณ 25-30% ของประชากรผู้ใหญ่ในประเทศไทยมีภาวะไขมันในเลือดสูง
- สถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือด เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย
- โรคหลอดเลือดหัวใจ: มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 15-20% ของการเสียชีวิตทั้งหมดในแต่ละปี
- โรคหลอดเลือดสมอง: เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญรวมถึงภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และการสูบบุหรี่
ประโยชน์แคโรทีนอยด์ 4ชนิด ( อัลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมม่าแคโรทีน และไลโคปีน ) คืออะไร
แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) เป็นกลุ่มสารประกอบธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีสีสันสดใส พบได้ในผักและผลไม้หลากหลายชนิด แคโรทีนอยด์ชนิดต่าง ๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ นี่คือแคโรทีนอยด์ 4 ชนิด
แคโรทีนอยด์แต่ละชนิด ( อัลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมม่าแคโรทีน และไลโคปีน ) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของอวัยวะต่างๆ รวมถึงตับ สมอง และหัวใจ ดังนี้:
ประโยชน์อัลฟาแคโรทีน (Alpha-Carotene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ
ตับ: อัลฟาแคโรทีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับอักเสบและโรคตับแข็ง
สมอง: การมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม โดยการลดการอักเสบและป้องกันการทำลายของเซลล์ประสาท
หัวใจ: อัลฟาแคโรทีนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการลดการอักเสบและลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด
ประโยชน์เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ
ตับ: เบต้าแคโรทีนเป็นแหล่งของวิตามินเอ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและรักษาสุขภาพตับ ช่วยในการขจัดสารพิษและส่งเสริมการทำงานของตับ
สมอง: วิตามินเอที่ได้รับจากเบต้าแคโรทีนช่วยในการส่งสัญญาณประสาทและการทำงานของระบบประสาท ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง
หัวใจ: เบต้าแคโรทีนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด
ประโยชน์แกมม่าแคโรทีน (Gamma-Carotene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ
ตับ: แกมม่าแคโรทีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับและลดความเสี่ยงของโรคตับ
สมอง: การมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการทำลายของเซลล์ประสาทในสมอง ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง
หัวใจ: แกมม่าแคโรทีนช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
ประโยชน์ไลโคปีน (Lycopene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ
ตับ: ไลโคปีนมีบทบาทในการป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยสารพิษและอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดโรคตับไขมันและโรคตับอักเสบ
สมอง: ไลโคปีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการอักเสบและการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาท ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
หัวใจ: ไลโคปีนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดระดับโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL) รวมถึงลดการอักเสบในหลอดเลือด
แคโรทีนอยด์ทั้ง 4ชนิด—อัลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมม่าแคโรทีน และไลโคปีน—ล้วนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพของตับ สมอง และหัวใจ โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว
ประโยชน์ วิตามินอี ธรรมชาติ เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง หัวใจ
วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพของตับ สมอง และหัวใจ วิตามินอีธรรมชาติ
1. สุขภาพตับ
ป้องกันการทำลายเซลล์ตับ: วิตามินอีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการทำลายของเซลล์ตับจากอนุมูลอิสระและสารพิษต่าง ๆ
ลดการอักเสบ: วิตามินอีสามารถลดการอักเสบในตับ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับอักเสบและโรคตับไขมัน
ส่งเสริมการทำงานของตับ: วิตามินอีช่วยในการฟื้นฟูและเสริมสร้างการทำงานของตับ ทำให้ตับสามารถกำจัดสารพิษและรักษาสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น
2. สุขภาพสมอง
ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาท: วิตามินอีช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาทในสมอง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
เสริมสร้างความจำและการเรียนรู้: วิตามินอีช่วยในการส่งสัญญาณประสาท และเสริมสร้างการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้
ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อม: การบริโภควิตามินอีอย่างเพียงพอสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ
3. สุขภาพหัวใจ
ป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด: วิตามินอีช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ
ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: วิตามินอีช่วยลดการสะสมของโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในหลอดเลือด และเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด
เสริมสร้างการทำงานของหลอดเลือด: วิตามินอีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของหลอดเลือด ทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น
วิตามินอีธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพของตับ สมอง และหัวใจ โดยการทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี เช่น ถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันพืช และผักใบเขียว จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาว
เลซิตินเหมาะกับใครบ้าง
- ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับการทำงานของตับไม่ปกติ เช่น การย่อยอาหารไม่ดี แน่นท้อง จุกเสียด เป็นประจำ อ่อนเพลียง่าย
- ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี
- ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ
- ผู้ที่ต้องการบำรุงตับ
- ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
- ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติคนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับตับ ไขมันพอกตับ เบาหวาน อ้วน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง โคเลสสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง
เลซิติน คนทั่วไปทานได้ไหม
คนทั่วไปสามารถรับประทานเลซิตินได้อย่างปลอดภัยและสามารถได้รับประโยชน์หลายประการ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบแหล่งที่มา ปฏิบัติตามคำแนะนำในการทาน
เลซิตินยี่ห้ออะไรดี
แนะนำ เลซิติน กิฟฟารีน
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์ และวิตามิน อี ชนิดแคปซูลนิ่ม (ตรา กิฟฟารีน)
9 ข้อดีที่ใครใครก็เลือกทานเลซิตินกิฟฟารีน
- ใช้เลซิตินคุณภาพดีนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
- ใช้เลซิตินสารสกัด จากถั่วเหลืองเพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด
- ให้ฟอสฟาติดิลโคลีนมากถึง 192 มิลลิกรัม/แคปซูล ซึ่งการเลือกเลซิตินจะพิจารณาจากสารนี้เป็นหลัก
- Giffarine เป็นเจ้วเดียวที่ใส่มิกซ์แคโรทีนนอยด์ นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
- ใช้มิกซ์แคโรทีนน้อยที่สกัดจากผลปาล์ม Non-GMO ซึ่งมีอัตราส่วนของอัลฟ่าแคโรทีนที่มากที่สุดในท้องตลาด
- เป็นกลุ่มสารแคโรทีนอยด์ถึง4ชนิด ไว้ด้วยกัน ได้แก่ แอลฟ่า-แคโรทีน เบต้า-แคโรทีน แกมมา-แคโรทีน และไลโคปีน ซึ่งเป็นสารสีแดง ส้ม และเหลืองตามธรรมชาติ
- มิกซ์แคโรทีนหน่อยที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระได้หลักหลายระบบในร่างกาย
- การได้รับเลซิตินร่วมกับมิกซ์แคโรทีนนอยด์ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานของเลซิตินและช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มทีกว่าการได้รับเลยซิตินเพียงอย่างเดียว
- ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรอง GMP และHalal มั่นใจถึงคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัย
จุดเด่นเลซิตินกิฟฟารีน
- เลซิติน กิฟฟารีน พัฒนาสูตรที่มีส่วนผสมแตกต่างจากเลซิตินทั่วไป โดยผสมวิตามินอี และแคโรทีนอยด์รวมจากธรรมชาติ 4 ชนิด ที่สกัดจากผลปาล์มแดง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีประสิทธิภาพสูง และช่วยส่งเสริมการทำงานของเลซิตินให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
- คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพ
- มีมาตรฐานการผลิตที่สูง ใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่ทันสมัยเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
- แคปซูลแบบนิ่ม ทำจากเจลาตินซึ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว ผ่านการรับรองจาก อย. ว่ามีมาตรฐาน ปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย
เลซิตินมีผลข้างเคียงไหม
เนื่องจากเลซิตินสกัดจากถั่วเหลืองมีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายและไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ไม่แนะนำในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถแนะนำให้ทานในเด็ก 15 ปีขึ้นไปได้
เลซิตินข้อห้าม ข้อควรระวัง
การแพ้: ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วเหลืองหรือถั่วลิสงควรระมัดระวังในการบริโภคเลซิตินที่สกัดจากแหล่งเหล่านี้
เนื่องจากเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง มีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ไม่แนะนำในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถแนะนำในเด็ก 15 ปีขึ้นไปได้.
เลซิติน คนแพ้ถั่วเหลืองสามารถทานได้หรือไม่
เนื่องจาก เลซิตินของกิฟฟารีน สกัดเฉพาะเลซิตินออกจากถั่วเหลืองจึงมีโปรตีนอื่นๆที่อาจเกิดการแพ้น้อยมาก เช่นเดียวกันกับ สารกลุ่มไอโซฟลาโวน หรือสารคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนจากถั่วเหลือง ทั้งนี้ผู้ที่มีความกังวลใจหากลองทานแล้วมีอาการแพ้ เช่น มีอาการบวม ผื่น หายใจไม่ออก ให้หยุดทาน หรือในผู้ที่ไวต่อสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้มากๆ หรือแพ้รุนแรง แนะนำให้หลีกเลี่ยง
เปลือกแคปซูลของเลซิตินทำจากอะไร
แคปซูลแบบนิ่มทำจากกินละตินซึ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลาย และผ่านการรับรองจากอย. ว่ามีมาตรฐานความปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่ออันตรายใดๆ
ข้อแนะนำ ในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม :
ไม่ควรเก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิร้อนจัด และควรจัดเก็บไว้ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) เพื่อคงสภาพผลิตภัณฑ์ไว้ให้ดีที่สุด
*ตะกอนที่พบในเลซิติน คือส่วนผสมของแคโรทีนอยด์ซึ่งไม่ละลายในเลซิติน และแขวนลอยอยู่ในแคปซูล เมื่อตั้งทิ้งไว้จึงเกิดการรวมตัวกันและตกตะกอน ซึ่งเป็นปกติของส่วนผสมที่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ส่งผลต่อคุณภาพของเลซิตินและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
เลซิตินกิฟฟารีน 60 แคปซูล เลขที่ อย.
ฉลาก/เลขที่ใบจดแจ้ง:13-1-03337-1-0171
เลซิตินกินตอนไหน
เลซิตินกิฟฟารีน วิธีทาน:
เลซิติน ทาน วันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร.
เลซิตินกิฟฟารีน ราคา
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์ และวิตามิน อี ชนิดแคปซูลนิ่ม (ตรา กิฟฟารีน) ราคา
ปริมาณบรรจุ: 60.00 แคปซูล น้ำหนักรวม: 185.00 กรัม จำนวน: 1 ชิ้น. ราคา 680 บาท.