Giffmart's Blog

เลซิตินผสมแคโรทีนอยด์ วิตามินสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ

Published 2024-06-08 18:06:12 Updated 2024-09-28 10:18:56 บทความทั้งหมด เข้าดู 360 ครั้ง
เลซิตินผสมแคโรทีนอยด์ วิตามินสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ

ประโยชน์และสรรพคุณของเลซิตินผสมแคโรทีนอยด์4ชนิด และวิตามินอี ธรรมชาติ

 เลซิตินเป็นสารที่มีประโยชน์หลากหลายและมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพ การรับประทานเลซิตินจากแหล่งอาหารธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างเหมาะสมสามารถช่วยเสริมสร้างสุขภาพในหลาย ๆ ด้าน


เลซิติน ช่วยปกป้องตับ บำรุงตับ ได้จริงไหม?  โดย พตท.นายแพทย์ มั่น อุดมพาณิชย์

สถิติผู้ป่วยโรคตับ โรคไขมันในเลือดสูงและโรคหลอดเลือด ในประเทศไทย

จากการรวบรวมและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถิติผู้ป่วยโรคตับ โรคไขมันในเลือดสูง และโรคหลอดเลือดในประเทศไทย มีดังนี้

  1.  สถิติผู้ป่วยโรคตับในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น โรคตับแข็ง โรคตับอักเสบ และมะเร็งตับ
  2. สถิติผู้ป่วยโรคไขมันในเลือดสูง เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด ประมาณ 25-30% ของประชากรผู้ใหญ่ในประเทศไทยมีภาวะไขมันในเลือดสูง
  3. สถิติผู้ป่วยโรคหลอดเลือด เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย
  4. โรคหลอดเลือดหัวใจ: มีอัตราการเสียชีวิตประมาณ 15-20% ของการเสียชีวิตทั้งหมดในแต่ละปี
  5. โรคหลอดเลือดสมอง: เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญรวมถึงภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และการสูบบุหรี่ 



ประโยชน์แคโรทีนอยด์ 4ชนิด ( อัลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมม่าแคโรทีน และไลโคปีน ) คืออะไร

แคโรทีนอยด์ (Carotenoids) เป็นกลุ่มสารประกอบธรรมชาติที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระและมีสีสันสดใส พบได้ในผักและผลไม้หลากหลายชนิด แคโรทีนอยด์ชนิดต่าง ๆ มีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ นี่คือแคโรทีนอยด์ 4 ชนิด

แคโรทีนอยด์แต่ละชนิด ( อัลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมม่าแคโรทีน และไลโคปีน ) มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพของอวัยวะต่างๆ รวมถึงตับ สมอง และหัวใจ ดังนี้:


ประโยชน์อัลฟาแคโรทีน (Alpha-Carotene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ 

ตับ: อัลฟาแคโรทีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับอักเสบและโรคตับแข็ง

สมอง: การมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อม โดยการลดการอักเสบและป้องกันการทำลายของเซลล์ประสาท

หัวใจ: อัลฟาแคโรทีนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการลดการอักเสบและลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือด


ประโยชน์เบต้าแคโรทีน (Beta-Carotene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ 

ตับ: เบต้าแคโรทีนเป็นแหล่งของวิตามินเอ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างและรักษาสุขภาพตับ ช่วยในการขจัดสารพิษและส่งเสริมการทำงานของตับ

สมอง: วิตามินเอที่ได้รับจากเบต้าแคโรทีนช่วยในการส่งสัญญาณประสาทและการทำงานของระบบประสาท ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง

หัวใจ: เบต้าแคโรทีนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดระดับโคเลสเตอรอลในเลือดและป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด


ประโยชน์แกมม่าแคโรทีน (Gamma-Carotene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ 

ตับ: แกมม่าแคโรทีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเซลล์ตับและลดความเสี่ยงของโรคตับ

สมอง: การมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันการทำลายของเซลล์ประสาทในสมอง ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง

หัวใจ: แกมม่าแคโรทีนช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือดและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด


ประโยชน์ไลโคปีน (Lycopene) เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง และหัวใจ

ตับ: ไลโคปีนมีบทบาทในการป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยสารพิษและอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดโรคตับไขมันและโรคตับอักเสบ

สมอง: ไลโคปีนมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการอักเสบและการเสื่อมสภาพของเซลล์ประสาท ลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์และพาร์กินสัน

หัวใจ: ไลโคปีนช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจโดยการลดระดับโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL) รวมถึงลดการอักเสบในหลอดเลือด


แคโรทีนอยด์ทั้ง 4ชนิด—อัลฟาแคโรทีน, เบต้าแคโรทีน, แกมม่าแคโรทีน และไลโคปีน—ล้วนมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพของตับ สมอง และหัวใจ โดยทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยแคโรทีนอยด์เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมสุขภาพที่ดีในระยะยาว




ประโยชน์ วิตามินอี ธรรมชาติ เกี่ยวกับสุขภาพตับ สมอง หัวใจ

วิตามินอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพของตับ สมอง และหัวใจ วิตามินอีธรรมชาติ


1. สุขภาพตับ

ป้องกันการทำลายเซลล์ตับ: วิตามินอีมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันการทำลายของเซลล์ตับจากอนุมูลอิสระและสารพิษต่าง ๆ

ลดการอักเสบ: วิตามินอีสามารถลดการอักเสบในตับ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคตับอักเสบและโรคตับไขมัน

ส่งเสริมการทำงานของตับ: วิตามินอีช่วยในการฟื้นฟูและเสริมสร้างการทำงานของตับ ทำให้ตับสามารถกำจัดสารพิษและรักษาสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น


2. สุขภาพสมอง

ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาท: วิตามินอีช่วยป้องกันการเสื่อมของเซลล์ประสาทในสมอง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรคทางสมอง เช่น โรคอัลไซเมอร์และพาร์กินสัน

เสริมสร้างความจำและการเรียนรู้: วิตามินอีช่วยในการส่งสัญญาณประสาท และเสริมสร้างการทำงานของสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้

ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อม: การบริโภควิตามินอีอย่างเพียงพอสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ


3. สุขภาพหัวใจ

ป้องกันการอักเสบของหลอดเลือด: วิตามินอีช่วยลดการอักเสบในหลอดเลือด ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ

ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ: วิตามินอีช่วยลดการสะสมของโคเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) ในหลอดเลือด และเพิ่มระดับโคเลสเตอรอลที่ดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด

เสริมสร้างการทำงานของหลอดเลือด: วิตามินอีช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของหลอดเลือด ทำให้ระบบหมุนเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น


วิตามินอีธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและปกป้องสุขภาพของตับ สมอง และหัวใจ โดยการทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และช่วยปรับปรุงการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย การบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี เช่น ถั่ว เมล็ดพืช น้ำมันพืช และผักใบเขียว จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาว




เลซิตินเหมาะกับใครบ้าง

  1. ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับการทำงานของตับไม่ปกติ เช่น การย่อยอาหารไม่ดี แน่นท้อง จุกเสียด เป็นประจำ อ่อนเพลียง่าย 
  2. ผู้ที่เป็นไวรัสตับอักเสบ บี และ ซี
  3. ผู้ที่ดื่มเหล้าเป็นประจำ
  4. ผู้ที่ต้องการบำรุงตับ
  5. ผู้สูงอายุ (50 ปีขึ้นไป)
  6. ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมีประวัติคนในครอบครัวที่มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเกี่ยวกับตับ ไขมันพอกตับ เบาหวาน อ้วน โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต มะเร็ง ความดันสูง ไขมันในเลือดสูง โคเลสสเตอรอลสูง ไตรกลีเซอร์ไรด์สูง


เลซิติน คนทั่วไปทานได้ไหม

คนทั่วไปสามารถรับประทานเลซิตินได้อย่างปลอดภัยและสามารถได้รับประโยชน์หลายประการ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบแหล่งที่มา ปฏิบัติตามคำแนะนำในการทาน


เลซิตินยี่ห้ออะไรดี

แนะนำ เลซิติน กิฟฟารีน 

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์ และวิตามิน อี ชนิดแคปซูลนิ่ม (ตรา กิฟฟารีน) 




9 ข้อดีที่ใครใครก็เลือกทานเลซิตินกิฟฟารีน

  1. ใช้เลซิตินคุณภาพดีนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา
  2. ใช้เลซิตินสารสกัด จากถั่วเหลืองเพราะมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด
  3. ให้ฟอสฟาติดิลโคลีนมากถึง 192 มิลลิกรัม/แคปซูล ซึ่งการเลือกเลซิตินจะพิจารณาจากสารนี้เป็นหลัก
  4. Giffarine เป็นเจ้วเดียวที่ใส่มิกซ์แคโรทีนนอยด์ นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย
  5. ใช้มิกซ์แคโรทีนน้อยที่สกัดจากผลปาล์ม Non-GMO ซึ่งมีอัตราส่วนของอัลฟ่าแคโรทีนที่มากที่สุดในท้องตลาด
  6. เป็นกลุ่มสารแคโรทีนอยด์ถึง4ชนิด ไว้ด้วยกัน ได้แก่ แอลฟ่า-แคโรทีน เบต้า-แคโรทีน แกมมา-แคโรทีน และไลโคปีน ซึ่งเป็นสารสีแดง ส้ม และเหลืองตามธรรมชาติ
  7. มิกซ์แคโรทีนหน่อยที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระได้หลักหลายระบบในร่างกาย
  8. การได้รับเลซิตินร่วมกับมิกซ์แคโรทีนนอยด์ จะช่วยเสริมประสิทธิภาพของการทำงานของเลซิตินและช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างเต็มทีกว่าการได้รับเลยซิตินเพียงอย่างเดียว
  9. ผลิตจากโรงงานที่ได้รับการรับรอง GMP และHalal มั่นใจถึงคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัย







จุดเด่นเลซิตินกิฟฟารีน

  • เลซิติน กิฟฟารีน พัฒนาสูตรที่มีส่วนผสมแตกต่างจากเลซิตินทั่วไป โดยผสมวิตามินอี และแคโรทีนอยด์รวมจากธรรมชาติ 4 ชนิด ที่สกัดจากผลปาล์มแดง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในร่างกายที่มีประสิทธิภาพสูง และช่วยส่งเสริมการทำงานของเลซิตินให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
  • คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูงจากสหรัฐอเมริกา ที่ได้มาตรฐานและได้รับการยอมรับในเรื่องความปลอดภัย และประสิทธิภาพ
  • มีมาตรฐานการผลิตที่สูง ใช้เทคโนโลยีและกระบวนการที่ทันสมัยเพื่อรักษาคุณภาพและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์
  • แคปซูลแบบนิ่ม ทำจากเจลาตินซึ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว ผ่านการรับรองจาก อย. ว่ามีมาตรฐาน ปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย





เลซิตินมีผลข้างเคียงไหม

เนื่องจากเลซิตินสกัดจากถั่วเหลืองมีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายและไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ไม่แนะนำในสตรีมีครรภ์และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถแนะนำให้ทานในเด็ก 15 ปีขึ้นไปได้




เลซิตินข้อห้าม ข้อควรระวัง

การแพ้: ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วเหลืองหรือถั่วลิสงควรระมัดระวังในการบริโภคเลซิตินที่สกัดจากแหล่งเหล่านี้

เนื่องจากเลซิตินที่สกัดจากถั่วเหลือง มีความเป็นสมุนไพรน้อยมาก จึงสามารถทานได้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ก่อให้เกิดอันตราย และไม่มีผลกระทบต่อยาหรือโรคใดๆ ทั้งนี้ไม่แนะนำในสตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร เนื่องจากเป็นข้อห้ามตามหลักการทั่วไปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แต่สามารถแนะนำในเด็ก 15 ปีขึ้นไปได้.





เลซิติน คนแพ้ถั่วเหลืองสามารถทานได้หรือไม่

เนื่องจาก เลซิตินของกิฟฟารีน สกัดเฉพาะเลซิตินออกจากถั่วเหลืองจึงมีโปรตีนอื่นๆที่อาจเกิดการแพ้น้อยมาก เช่นเดียวกันกับ สารกลุ่มไอโซฟลาโวน หรือสารคล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจนจากถั่วเหลือง ทั้งนี้ผู้ที่มีความกังวลใจหากลองทานแล้วมีอาการแพ้ เช่น มีอาการบวม ผื่น หายใจไม่ออก ให้หยุดทาน หรือในผู้ที่ไวต่อสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้มากๆ หรือแพ้รุนแรง แนะนำให้หลีกเลี่ยง




เปลือกแคปซูลของเลซิตินทำจากอะไร

แคปซูลแบบนิ่มทำจากกินละตินซึ่งสกัดจากกระดูกและชั้นไขมันใต้ผิวหนังของวัว ซึ่งเป็นที่นิยมแพร่หลาย และผ่านการรับรองจากอย. ว่ามีมาตรฐานความปลอดภัย สามารถรับประทานได้โดยไม่ก่ออันตรายใดๆ

ข้อแนะนำ ในการจัดเก็บผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดแคปซูลนิ่ม :

ไม่ควรเก็บไว้ในห้องที่มีอุณหภูมิร้อนจัด และควรจัดเก็บไว้ในตู้เย็น (ช่องธรรมดา) เพื่อคงสภาพผลิตภัณฑ์ไว้ให้ดีที่สุด

 *ตะกอนที่พบในเลซิติน คือส่วนผสมของแคโรทีนอยด์ซึ่งไม่ละลายในเลซิติน และแขวนลอยอยู่ในแคปซูล เมื่อตั้งทิ้งไว้จึงเกิดการรวมตัวกันและตกตะกอน ซึ่งเป็นปกติของส่วนผสมที่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ส่งผลต่อคุณภาพของเลซิตินและไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ

เลซิตินกิฟฟารีน 60 แคปซูล เลขที่ อย.

ฉลาก/เลขที่ใบจดแจ้ง:13-1-03337-1-0171


เลซิตินกินตอนไหน

เลซิตินกิฟฟารีน วิธีทาน:

เลซิติน ทาน วันละ 1-2 แคปซูล พร้อมอาหาร.


เลซิตินกิฟฟารีน ราคา

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เลซิติน ผสมแคโรทีนอยด์ และวิตามิน อี ชนิดแคปซูลนิ่ม (ตรา กิฟฟารีน) ราคา

ปริมาณบรรจุ: 60.00 แคปซูล น้ำหนักรวม: 185.00 กรัม จำนวน: 1 ชิ้น. ราคา 680 บาท.


สั่งซื้อ เลซิตินกิฟฟารีน