ชุดหลอดเลือดหัวใจ + ชะลอวัย (Anti-Aging) แอสตาแมกซ์กิฟฟารีน + โคคิวเท็นแมกซ์กิฟฟารีน แอสตาแซนทีน โคเอนไซม์คิวเท็น Astaxanthin Coenzyme Q10 ดูแลหลอดเลือด ชลอวัย ไขมันในเลือด หลอดเลือดตีบ ไขมันพอกตับ

ชุดหลอดเลือดหัวใจ + ชะลอวัย (Anti-Aging) แอสตาแมกซ์กิฟฟารีน + โคคิวเท็นแมกซ์กิฟฟารีน แอสตาแซนทีน โคเอนไซม์คิวเท็น Astaxanthin Coenzyme Q10 ดูแลหลอดเลือด ชลอวัย

ชุดหลอดเลือดหัวใจ + ชะลอวัย (Anti-Aging) แอสตาแมกซ์กิฟฟารีน + โคคิวเท็นแมกซ์กิฟฟารีน ประกอบด้วย

1. กิฟฟารีน แอสตา-แมกซ์ แอสตาแซนธิน 6 มก. ผสมวิตามินซี (30 แคปซูล) 1 กล่อง
2. โคคิวเทน แมกซ์ กิฟฟารีน Giffarine Co-Q10 Maxx  (30 แคปซูล)  1 กป.

สรรพคุณ Asta‑Maxx (กิฟฟารีน) + กลไกสารอาหาร (เรียงตามเรตติ้งสูงสุด)

1. ต้านอนุมูลอิสระลึกระดับเซลล์ – ป้องกันความเสื่อมทุกระบบ

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (10/10)

Astaxanthin 6 mg

– แทรกเยื่อหุ้มเซลล์ ป้องกันการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ

– ลดความเสียหายของ DNA และโปรตีน

เห็นผล: 7–14 วันแรกผิวเริ่มใสขึ้น

2. ลดริ้วรอย ฟื้นฟูผิวตึงกระจ่างใส

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (10/10)

Astaxanthin + Vitamin C

– กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน, ลดรอยเหี่ยวย่น

– ผิวเรียบ เนียน อิ่มฟู

เห็นผล: 2–4 สัปดาห์ ผิวเนียนเด้ง

3. บำรุงสายตา ลดตาแห้ง ตาพร่า

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (9/10)

Astaxanthin

– ปกป้องจอประสาทตา ลด oxidative stress

– ลดความล้าจากหน้าจอคอม-มือถือ

เห็นผล: 14–21 วัน

4. ลดอักเสบ ข้อ–กล้ามเนื้อ ปวดตึงจากวัย

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (9/10)

Astaxanthin

– ลดสารอักเสบ IL-6, TNF-α

– ฟื้นฟูเนื้อเยื่อข้อต่อและกล้ามเนื้อ

เห็นผล: 3–4 สัปดาห์

5. ฟื้นฟูพลังงาน ลดอาการล้า

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (8/10)

Astaxanthin

– กระตุ้นไมโทคอนเดรียให้สร้างพลังงานมากขึ้น

– เหมาะกับคนพักผ่อนน้อย ใช้พลังงานสูง

เห็นผล: 2–3 สัปดาห์

6. ปกป้องผิวจากแดด – กัน UV จากภายใน

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (8/10)

Astaxanthin + Vitamin C

– ลด oxidative stress จากรังสี UV

– ชะลอฝ้า กระ จุดด่างดำ

เห็นผล: 3–4 สัปดาห์

7. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (8/10)

Astaxanthin

– ลดการอักเสบในหลอดเลือด ปกป้อง LDL จากการถูกออกซิไดซ์

– ลดความเสี่ยงหลอดเลือดแข็ง

เห็นผล: 4–6 สัปดาห์

8. เสริมภูมิคุ้มกันพื้นฐาน

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (7/10)

Astaxanthin + Vitamin C

– เพิ่มการทำงานของ NK cell และ macrophage

– ลดการติดเชื้อซ้ำในร่างกาย

เห็นผล: 3–4 สัปดาห์

9. บำรุงสมอง ความจำ สมาธิ

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (7/10)

Astaxanthin

– ผ่าน blood-brain barrier ลด oxidative stress ในสมอง

– ป้องกันภาวะสมองเสื่อมระยะเริ่มต้น

เห็นผล: 4–8 สัปดาห์

10. ชะลอวัยอวัยวะภายใน (ตับ–หัวใจ–ตา–สมอง)

เรตติ้ง: ⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️⭐️ (7/10)

Astaxanthin

– ลดความเสียหายเซลล์อวัยวะสำคัญ

– ฟื้นสมดุลภายในร่างกาย

เห็นผล: 6–8 สัปดาห์

สรุปการทาน

ทั่วไป (ผิว+ตา) → 1 แคปซูล/วัน หลังอาหารเช้า

ฟื้นฟูข้อ-หัวใจ-ชะลอวัยลึก → 2 แคปซูล/วัน

ดื่มน้ำ 1.5–2 ลิตร/วัน เพื่อเสริมการขับของเสียและดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระ

แอสต้าแมกซ์กิฟฟารีน คุณภาพดีสู้แบรนด์อื่นได้ไหม? ใช้แอสต้าแซนธินจากประเทศอะไร? 

แหล่งวัตถุดิบAstaxanthin ธรรมชาติที่กิฟฟารีน เลือกคือ.. #AstaReal®

AstaReal® = ตัวแม่ Astaxanthin ระดับโลก ระบบเพาะเลี้ยงปิด ปลอดมลภาวะ งานวิจัยรองรับมากกว่า 70 ชิ้น คุณภาพพรีเมี่ยมที่สุดเหมาะสุดสำหรับแบรนด์

พรีเมียมที่ต้องการความน่าเชื่อถือสูง! #แหล่งวัตถุดิบAstaxanthin ธรรมชาติ – พรีเมียมระดับโลก.

1. AstaReal®

ประเทศ: สวีเดน / สหรัฐฯ / ญี่ปุ่น

คุณภาพ: ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐ (10/10)

จุดเด่น: ระบบเพาะเลี้ยงปิด (Photobioreactor) ปลอดมลพิษ + มาตรฐานสากลสูง

ราคา :

• Powder 4% → ~82–86 USD/kg

• Oil 10% → ~290–350 USD/kg

กิฟฟารีน แอสตา-แมกซ์ แอสตาแซนธิน 6 มก. ผสมวิตามินซี (30 แคปซูล)

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล:

1. สารสกัดสาหร่ายฮีมาโตคอกคัส พลูวิเอลิส (ให้แอสตาแซนธิน 6 มก.) 240 มก.
2. กรดแอสคอร์บิก (ให้วิตามินซี 30 มก.)

แอสตาแซนทีนกินเวลาไหน :

วันละ 1 แคปซูล หลังอาหาร

กิฟฟารีน แอสตา-แมกซ์ อย.

เลขที่ใบจดแจ้ง:13-1-03440-5-0008

คุณสมบัติของโคเอนไซม์ คิวเทน

1. ลดความเสี่ยงในคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด หรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure)

  หรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure) ทั้งนี้มีงานวิจัยสนับสนุนว่าการรับประทานโคเอนไซม์ คิวเทน 120 มิลลิกรัมต่อวัน ในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดจะช่วยลดอัตราการเป็นซ้ำ และลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างมีนัยสำคัญ (อ้างอิงที่1) และในปริมาณสูงยังประโยชน์ในการผ่าตัดหัวใจโดยทำให้หัวใจทนทานต่อการขาด เลือดและฟื้นตัวได้ดีขึ้น (อ้างอิงที่2)

2. มีบทบาทสำคัญในการทำลายสารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้น ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย จึงช่วยป้องกันเรื่องหลอดเลือดหัวใจ

ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย จึงช่วยป้องกันเรื่องหลอดเลือดหัวใจอันเกิดจากการที่แอลดีแอลโคเลสเตอรอล (LDL Cholesterol) ถูกออกชิไดซ์ (Oxidized) ด้วยอนุมูลอิสระ (อ้างอิงที่3) และสะสมในผนังหลอดเลือด ก่อให้เกิดการอักเสบและผนังหลอดเลือดหนาตัวขึ้นกลายเป็นพล๊าค (Plaque) หรือตะกอนในผนังเส้นเลือด เกาะที่ผนังหลอดเลือด ส่งผลทำให้หลอดเลือดแข็ง ไม่ยืดหยุ่นและตีบตัน นำมาซึ่งปัญหาเรื่องโรคหัวใจได้

3. ช่วยลดระยะเวลาที่ปวดต่อครั้ง รวมถึงลดความถี่ในการปวดหัวไมเกรน (Migraine)

ทั้งนี้มีงานวิจัยที่แสดงว่า การให้กลุ่มที่เข้ารับการทดสอบ 31 คน ได้รับโคเอนไซม์ คิวเทน ปริมาณ 150 มิลลิกรัมต่อวัน พบว่า 19 คน จาก 31 คน มีระยะเวลาที่ปวดไมเกรนในแต่ละครั้งลดลงมากกว่า 50% กล่าวคือระยะเวลาที่ปวดโดยเฉลี่ย 7.34 วันต่อเดือน ลดลงเหลือเฉลี่ย 2.95 วันต่อเดือน หลังจากได้รับโคเอนไซม์ คิวเทนเป็นระยะเวลา 3 เดือนและช่วยลดความถี่ในการปวดจากเดิมที่ความถี่ 4.85 เหลือ 2.81 โดยไม่มีผลข้างเคียง (อ้างอิงที่ 4.5)

4. โคเอนไซม์ คิวเทน ยังเกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างพลังงานของร่างกาย โดยจะช่วยในการเปลี่ยน อาหารที่เรารับประทานเข้าไปเป็นพลังงานไมโตรคอนเดรียที่อยู่ในเซลล์ร่างกาย

โดยจะช่วยในการเปลี่ยน อาหารที่เรารับประทานเข้าไปเป็นพลังงานไมโตรคอนเดรียที่อยู่ในเซลล์ร่างกาย ถือว่ามีบทบาทสำคัญในไมโตรคอนเดรียอันเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์ (Key role in mitcohondrial bioener getics) จึงพบโคเอนไซม์ คิวเทนได้มากในอวัยวะใช้พลังงานในการทำงาน มากเช่น หัวใจ ปอด และตับ (อ้างอิงที่ 6-8)

5. อาจจะมีประโยชน์ในผู้ป่วยทาลัสซีเมียรุนแรง ชนิดเบต้า ทาลัสซีเมีย อี (Beta-thaiassemia/HbE)

ชนิดเบต้า ทาลัสซีเมีย อี (Beta-thaiassemia/HbE) ซึ่งจะมีระดับโคเอนไซม์ คิวเทนในเลือดต่ำลงการให้โคเอนไซม์ คิวเทนทำให้ลดภาวะออกซิเดชั่นภายในเซลล์ และอาจทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น (อ้างอิงที่9)

6. อาจจะมีประโยชน์ในโรคทางสมอง ได้แก่ โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ (Dementia) โรคความจำเป็นเสื่อม (Alzheimer”s disease) และโรคปาร์กินสัน (Parkinson”s disease) โรคหอบหืด (Bronchialasthma) โรคไตเสื่อมเรื้อรัง

ได้แก่ โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุ (Dementia) โรคความจำเป็นเสื่อม (Alzheimer”s disease) และโรคปาร์กินสัน (Parkinson”s disease) (อ้างอิงที่ 10) โรคหอบหืด (Bronchialasthma) อ้างอิงที่11) โรคไตเสื่อมเรื้อรัง (Tubulopathy and Chronic tubulointersticial nephritis) (อ้างอิงที่12) แม้ว่าการวิจัยสำหรับโรคปาร์กินสัน โรคหอบหืด และ โรคไต พบว่ายังไม่ได้ผลในการรักษา แต่โรคเหล่านี้มีกลไกจากความเสื่อมของเซลล์ ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระมีบทบาท และพบว่าระดับโคเอนไซม์คิวเทนในเลือดต่ำลงในโรคเหล่านี้ด้วยอีกทั้งมีความ ปลอดภัยและมีประโยชน์จากการวิจัยในระดับเซลล์และในสัตว์ทดลอง ปัจจุบันมีงานวิจัยในคนที่มากขึ้นสำหรับโรคทางสมองเสื่อมอีกหลายชนิด

กล่าวโดยสรุป โคเอนไซม์ คิวเทนมีบทบาทสำคัญมากมายรวมถึงประโยชน์ต่างๆ ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ไม่ว่าจะช่วยในเรื่องหัวใจการเป็น Antioxidant ที่ทำลายอนุมูลอิสระ เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างพลังงานของเซลล์ รวมถึงช่วยในเรื่องการปวดหัวไมเกรน อาจจะมีประโยชน์ในผู้ป่วยทาลัลซีเมียรุนแรง ชนิดเบต้าทาลัสซีเมีย อี (Betathalassemia/HbE) และอาจมีประโยชน์ในโรคทางสมองได้แก่ โรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุโรคความจำเสื่อม และโรคปาร์กินสัน ดังกล่าวมาแล้วเบื้องต้น

เนื่องจากปริมาณของโคเอนไซม์ คิวเทนที่มีในร่างกายจะลดลงตามวัยที่เพิ่มมากขึ้น การรับประทานโคเอนไซม์ คิวเทน จึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการเสริมสุขภาพ

ประโยชน์ของ โคเอนไซม์ คิวเทน

 • ลดความเสี่ยงคนไข้ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด

 • มีบทบาทสำคัญในการทำลายอนุมูลอิสระ

 • ช่วยลดระยะเวลาในการปวดหัวไมเกรน

 • เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างพลังงานโดยตรงของร่างกาย 

คุณสมบัติของทอรีน (Taurine)

ทอรีนเป็นกรดอินทรีย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นที่นิยมทำเป็นอาหารเสริมในต่างประเทศ พบมากในสมอง ในหัวใจ ในจอตา และในกล้ามเนื้อ ในน้ำนมของมนุษย์มีส่วนในการเมตาบอลิซึมเซลล์ต่างๆ ทั้งเรื่องการคุมการทำงานของแคลเซียมในเซลล์ และการเผาผลาญน้ำตาล ช่วยในการทำงานของเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ปัจจุบันนิยมใช้ในเรื่องบำรุงหัวใจและเบาหวาน (อ้างอิงที่13)

ทอรีนเป็นกรดอะมิโนที่มีบทบาทสำคัญในร่างกาย ทอรีนจะเป็นส่วนประกอบหลักของน้ำดี ทั้งนี้มีรายงานวิจัยสนับสนุนว่าการเสริมทอรีนให้แก่ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ขาดเลือด หรือภาวะหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure) ให้ผลที่ดีและมีความปลอดภัย (อ้างอิงที่ 14)

คุณสมบัติของแอล-คาร์นิทีน

แอล-คาร์นิทีนเป็นสารที่ร่างกายสร้างขึ้นไก้เอง มีบทบาทในกระบวนการเผาผลาญ โดยเป็นตัวนำกรดไขมันเข้ามาสู่ไมโตคอนเดรียของเซลล์ มีงานวิจัยที่สนับสนุนว่า แอล-คาร์นิทีนมีประโยชน์ในการช่วยรักษาโรคหัวใจขาดเลือด หรือภาวะทั้งหัวใจล้มเหลวจากเลือดคั่ง (Congestive Heart Failure)

คุณสมบัติของชิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ (Citrus Bioflavonoid)

ซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ ถือเป็นสารอาหารสำคัญจากพืชผักและผลไม้ที่เรียกว่า ไฟโตนิวเทรียนท์ (phytonutrients) ชนิดหนึ่ง จัดเป็นแหล่งสำคัญของสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งมีงานวิจัยยืนยัน ยอมรับทั่วโลกในการต่อต้านการเป็นมะเร็งและการเป็นโรคหัวใจ.

โคคิวเทน แมกซ์ กิฟฟารีน Giffarine Co-Q10 Maxx ฉลากจดแจ้ง อย.

ฉลากจดแจ้ง อย. เลขที่ 13-1-03440-1-0081.

โคคิวเทน แมกซ์ กิฟฟารีน Giffarine Co-Q10 Maxx ส่วนผสม

ส่วนประกอบที่สำค้ญโดยประมาณใน 1 แคปซูล :

– ทอรีน 150.00 มก.

– แอล-คาร์นิทีน แอล-ทาร์เทรต 146.63 มก. (ให้แอล-คาร์นิทีน 100 มก.)

– โคเอนไซม์ คิวเทน 30.00 มก.

– ซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ 30.00 มก.