ปัณจะ ภูตะ ชนิด138 แคปซูล อาหารเสริมปรับสมดุลย์ในร่างกาย อาหารเสริมสมุนไพร สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน Punja Puta Giffarine ปรับสมดุลย์ร่างกาย โรคเรื้อรัง มะเร็ง

ราคา 1,600 พิเศษ 1,280 บาท

กลุ่มสินค้า ปรับสมดุลย์ร่างกาย โรคเรื้อรัง มะเร็ง

โปรโมชั่น ประจำเดือน

ปัณจะ ภูตะ กิฟฟารีน ชนิด138 แคปซูล อาหารเสริมปรับสมดุลย์ในร่างกาย อาหารเสริมสมุนไพร สมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน Puta Giffarine



ปัณจะ ภูตะ กิฟฟารีน จาก 3 ศาสตร์โบราณ ไทย จีน และอินเดีย สู่สมุนไพร 39 ชนิด ในรูปแบบแคปซูล ที่รับประทานง่าย และพกพาสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ ยังคงประสิทธิภาพเทียบเท่าการรับประทานในรูปแบบน้ำ สมุนไพร 39 ชนิด ช่วยปรับสมดุลร่างกายทั้ง เย็น กลาง อุ่น ร้อน ให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือน และพลังหยิน-หยาง.




ปัณจะ ภูตะ สมุนไพร 39ชนิด คืออะไร

ปัณจะ ภูตะ เป็นชื่อของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพร 39 ชนิด ซึ่งได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยคำว่า "ปัณจะ ภูตะ" มาจากภาษาสันสกฤต หมายถึง "ห้า ธาตุ" ซึ่งเป็นหลักปรัชญาทางศาสนาและวิทยาศาสตร์ของอินเดียโบราณที่กล่าวถึงธาตุทั้งห้า ได้แก่ ดิน น้ำ ไฟ ลม และอากาศ. ช่วยปรับสมดุลร่างกายทั้ง เย็น กลาง อุ่น ร้อน ให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือน และพลังหยิน-หยาง.


ส่วนประกอบหลักของปัณจะ ภูตะ

สมุนไพรทั้ง 39 ชนิด ในผลิตภัณฑ์ ปัณจะ ภูตะ มีการคัดสรรและผสมผสานกันอย่างลงตัว ช่วยปรับสมดุลร่างกายทั้ง เย็น กลาง อุ่น ร้อน ให้สอดคล้องกับธาตุเจ้าเรือน และพลังหยิน-หยาง โดยมีการรวม กลุ่มสมุนไพรฤทธิ์เย็น ( Cool Herb ) 14 ชนิด กลุ่มสมุนไพรฤทธิ์กลาง (Neutral Herbs) 8 ชนิด กลุ่มสมุนไพรฤทธิ์อุ่น (Warm Herb) 13 ชนิด กลุ่มสมุนไพรฤทธิ์ร้อน ( Hot Herbs ) 4 ชนิด รวมถึงสรรพคุณต่าง ๆ ที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรค สมุนไพรที่สำคัญได้แก่

14 สมุนไพรฤทธิ์เย็น ( Cool Herb )

สมุนไพรฤทธิ์เย็น (Cool Herbs) คือสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนในร่างกาย และช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับความร้อนหรือภาวะร้อนในร่างกาย สมุนไพรเหล่านี้มีสรรพคุณหลากหลายและเป็นที่นิยมใช้ในหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะในเอเชีย ต่อไปนี้คือรายการสมุนไพรฤทธิ์เย็นและสรรพคุณของแต่ละชนิด 1. มะขามป้อม  2. มะตูม 3. ดอกเก๊กฮวย  4. ดอกอัญชัน  5. เตยหอม 6. กระเจี๊ยบแดง 7. หม่อน 8. เทียนเกล็ดหอย 9. พลูคาว 10. หล่อฮังก้วยสกัด 11. บัวบก 12. เจียวกู่หลาน 13.แบะตง  14. สะระแหน่.

1. มะขามป้อม สรรพคุณ

มะขามป้อม (Indian Gooseberry หรือ Amla) เป็นผลไม้ที่มีขนาดเล็ก มีรสเปรี้ยวและมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ในทางการแพทย์แผนโบราณ เช่น อายุรเวทและยาจีน มะขามป้อมถือเป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมากมาย นี่คือสรรพคุณหลักของมะขามป้อม: 1. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 2. ต้านอนุมูลอิสระ 3. บำรุงผิวพรรณ 4. บำรุงเส้นผม 5. ช่วยในการย่อยอาหาร 6. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 7. บำรุงสายตา 8. เสริมสร้างการทำงานของตับ 9. ช่วยลดความดันโลหิต 10. บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ.

2. มะตูม สรรพคุณ

มะตูม (Bael หรือ Aegle marmelos) เป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์มากมายและถูกใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณของเอเชียหลายประเทศ มะตูมมีสรรพคุณหลายประการที่มีผลดีต่อสุขภาพ ซึ่งรวมถึงการบำรุงร่างกายและการรักษาโรคต่าง ๆ ดังนี้: 1. บำรุงระบบย่อยอาหาร 2. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 3. บำรุงหัวใจ 4. ขับสารพิษออกจากร่างกาย 5. บรรเทาอาการอักเสบ 6. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 7. บำรุงผิวพรรณ 8. ลดความเครียดและช่วยในการผ่อนคลาย 9. ช่วยรักษาโรคหอบหืดและหลอดลมอักเสบ.

3. ดอกเก๊กฮวย พรรคคุณ

ดอกเก๊กฮวย (Chrysanthemum) เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายและถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์แผนจีนและแผนโบราณมานานหลายศตวรรษ น้ำเก๊กฮวยเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในจีนและประเทศไทย นี่คือสรรพคุณหลักของดอกเก๊กฮวย : 1. ช่วยลดความดันโลหิต 2. บำรุงหัวใจ 3. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ 4. ต้านอนุมูลอิสระ 5. ช่วยในการย่อยอาหาร 6. บรรเทาอาการปวดหัว 7. บำรุงสายตา 8. ช่วยลดไข้ 9. บำรุงผิวพรรณ 10. ขับสารพิษ.

4. ดอกอัญชัน สรรพคุณ

ดอกอัญชัน (Butterfly Pea, ชื่อวิทยาศาสตร์: Clitoria ternatea) เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ และเป็นที่รู้จักในเรื่องของประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1.บำรุงสายตา 2. ต้านอนุมูลอิสระ 3. บำรุงสมองและความจำ 4. ลดความเครียดและเสริมสร้างสมดุลอารมณ์ 5. บำรุงผมและป้องกันผมหงอกก่อนวัย 6. ขับปัสสาวะ 7. ต้านการอักเสบ 8. ส่งเสริมระบบย่อยอาหาร 9. บำรุงผิวพรรณ.

5. เตยหอม สรรพคุณ

เตยหอม (Pandan หรือ Pandanus amaryllifolius) เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารและการแพทย์แผนโบราณ เตยหอมมีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีประโยชน์หลายประการทั้งในด้านการปรุงอาหารและการดูแลสุขภาพ ดังนี้: 1. บำรุงหัวใจ 2. ต้านอนุมูลอิสระ 3. ช่วยย่อยอาหาร 4. บรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ 5. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 6. ขับปัสสาวะ 7. บำรุงผิวพรรณ 8. ลดความเครียดและช่วยในการผ่อนคลาย.

6. กระเจี๊ยบแดง สรรพคุณ

กระเจี๊ยบแดง (Roselle, ชื่อวิทยาศาสตร์: Hibiscus sabdariffa) เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ โดยมีการใช้ทั้งในทางการแพทย์แผนโบราณและการแพทย์สมัยใหม่ มีสรรพคุณดังนี้: 1. ลดความดันโลหิต 2. ลดคอเลสเตอรอล 3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 4. ต้านอนุมูลอิสระ 5. ช่วยย่อยอาหาร 6. ลดน้ำหนัก 7. ขับปัสสาวะ 8. บรรเทาอาการหวัดและไข้ 9. บำรุงตับ 10. บำรุงผิวพรรณ.

7. หม่อน สรรพคุณ

หม่อน (Mulberry หรือ Morus alba) เป็นพืชที่มีประโยชน์หลายประการ ทั้งใบ ผล และเปลือกหม่อนถูกนำมาใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณและการทำอาหารมานานหลายศตวรรษ หม่อนมีสรรพคุณที่หลากหลายดังนี้: 1. บำรุงสายตา 2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 4. บำรุงหัวใจ 5. ช่วยย่อยอาหาร 6. บำรุงผิวพรรณ 7. ลดความดันโลหิต 8. ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ 9. ต้านมะเร็ง 10. ช่วยบำรุงสมอง.

8. เทียนเกล็ดหอย สรรพคุณ

เทียนเกล็ดหอย (Plantago Psyllium หรือ Psyllium Husk) เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ โดยเฉพาะในด้านการดูแลระบบทางเดินอาหารและสุขภาพทั่วไป มีสรรพคุณดังนี้: 1.ช่วยในการขับถ่าย 2. ลดคอเลสเตอรอล 3. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 4. ช่วยลดน้ำหนัก 5. บรรเทาอาการลำไส้แปรปรวน (IBS) 6. บำรุงระบบทางเดินอาหาร 7. ลดการอักเสบ 8. บำรุงหัวใจ.

9. พลูคาว สรรพคุณ

พลูคาว หรือ คาวตอง (ชื่อวิทยาศาสตร์: Houttuynia cordata) เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนไทยและแผนจีนมายาวนาน มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 2. ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส 3.ต้านการอักเสบ 4. ขับปัสสาวะ 5. บำรุงผิวพรรณ 6. ลดความดันโลหิต 7. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 8. ต้านอนุมูลอิสระ.

10. หล่อฮังก้วยสกัด สรรพคุณ

หล่อฮังก้วย (Monk Fruit) หรือที่รู้จักในชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Siraitia grosvenorii เป็นผลไม้ที่มักใช้ในทางการแพทย์แผนจีนและเป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ หล่อฮังก้วยสกัดมีสรรพคุณหลากหลายและเป็นที่นิยมในหมู่คนที่ต้องการลดการบริโภคน้ำตาล มาดูสรรพคุณหลักของหล่อฮังก้วยสกัดกัน : 1. เป็นสารให้ความหวานจากธรรมชาติ 2. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 3. ต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสระ 4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 5. บรรเทาอาการเจ็บคอและแก้ไอ 6. ช่วยในการย่อยอาหาร 7. บำรุงผิวพรรณ.

11. บัวบก สรรพคุณ

บัวบก (Gotu Kola หรือ Centella asiatica) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบการแพทย์แผนโบราณของเอเชีย โดยเฉพาะในอายุรเวทและการแพทย์แผนจีน บัวบกมีสรรพคุณและประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้: 1. ช่วยเสริมสร้างความจำและบำรุงสมอง 3. ต้านอนุมูลอิสระ 4. บำรุงผิวพรรณ 5. ลดความเครียดและบรรเทาอาการซึมเศร้า 6. ช่วยบำรุงหลอดเลือดและหัวใจ 7. บรรเทาอาการอักเสบและปวดข้อ 8. ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า 9. ช่วยในการย่อยอาหาร.

12. เจียวกู่หลาน สรรพคุณ

เจียวกู่หลาน (Jiaogulan) เป็นพืชสมุนไพรที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gynostemma pentaphyllum ในภาษาจีนเรียกว่า "เซียนเฉ่า" (เซียน=เทพ, เฉ่า=หญ้า) หรือ "สมุนไพรแห่งความอมตะ" เนื่องจากมีสรรพคุณที่เชื่อว่าสามารถส่งเสริมสุขภาพและอายุยืนยาวได้ เจียวกู่หลานมีสรรพคุณหลากหลายที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด 2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3. ต้านการอักเสบและลดอาการปวด 4. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 5. ส่งเสริมสุขภาพสมอง 6. ช่วยลดน้ำหนัก 7. บรรเทาอาการเครียดและช่วยให้นอนหลับ 8. ส่งเสริมการย่อยอาหาร.

13. แบะตง สรรพคุณ

แบะตง (หรือบางครั้งเรียกว่า "เปล้าใหญ่" ชื่อวิทยาศาสตร์: Brucea javanica) เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณมานานหลายศตวรรษ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย มีสรรพคุณหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส 2. ต้านมะเร็ง 3. ลดไข้ 4. บรรเทาอาการปวดท้องและท้องเสีย 5. รักษาโรคผิวหนัง 6. บำรุงตับ

14. สะระแหน่ สรรพคุณ

สะระแหน่ (Peppermint) เป็นพืชสมุนไพรที่นิยมใช้ทั้งในอาหารและยาสมุนไพร มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mentha piperita สะระแหน่มีสรรพคุณหลายอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ต่อไปนี้เป็นสรรพคุณหลักของสะระแหน่: 1. ช่วยบรรเทาอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ 2. บรรเทาอาการปวดหัว 3. ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล 4. ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกและหวัด 5. บรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียน 6. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 7. ช่วยบรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ 8. ช่วยบำรุงผิวพรรณ 9. ช่วยในการรักษาสุขภาพช่องปาก


8 สมุนไพรฤทธิ์กลาง  (Neutral Herbs)

สมุนไพรฤทธิ์กลาง (Neutral Herbs) คือสมุนไพรที่มีคุณสมบัติเป็นกลางต่อการปรับสมดุลของร่างกาย ไม่ได้มีฤทธิ์ร้อนหรือเย็นอย่างชัดเจน สมุนไพรเหล่านี้เหมาะสำหรับการบำรุงสุขภาพทั่วไปและสามารถใช้ได้กับคนส่วนใหญ่ มีสรรพคุณหลากหลายทั้งในด้านการบำรุงร่างกายและรักษาโรคบางอย่าง ต่อไปนี้คือรายการสมุนไพรฤทธิ์กลางและสรรพคุณของแต่ละชนิด  1. สมอไทย 2. สมอพิเภก 3. เก๋ากี้ 4. เห็ดหูหนูขาว 5. โป่งรากสน 6. ตังเซียม 7. ชะเอมเทศ 8. เห็ดหลินจือสกัด.

15. สมอไทย สรรพคุณ

สมอไทย (สมอพิเภก) (Chebulic Myrobalan หรือ Terminalia chebula) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบการแพทย์แผนโบราณของเอเชีย โดยเฉพาะในอายุรเวท (Ayurveda) สมอไทยมีสรรพคุณและประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้: 1. บำรุงระบบย่อยอาหาร 2. ต้านอนุมูลอิสระ 3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 4. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 5. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 6. ขับสารพิษออกจากร่างกาย 7. บำรุงผิวพรรณ 8. บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ 9. ช่วยเพิ่มพลังงานและลดความเหนื่อยล้า.

16. สมอภิเภก สรรพคุณ

สมอภิเภก หรือที่รู้จักในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Terminalia bellirica เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายและถูกใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะในประเทศอินเดียและไทย ซึ่งสมอภิเภกเป็นส่วนประกอบหนึ่งในตำรับยา "ตรีผลา" ที่มีชื่อเสียงในอายุรเวท ต่อไปนี้คือสรรพคุณหลักของสมอภิเภก : 1. เป็นยาระบายและบรรเทาอาการท้องผูก 2. บำรุงตับ 3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 4. บำรุงผิวพรรณ 5. ช่วยในการย่อยอาหาร 6. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 7. ต้านการอักเสบ 8. ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด.

17. เก๋ากี้ สรรพคุณ

เก๋ากี้หรือที่รู้จักในชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Garcinia cambogia เป็นพืชผลไม้ที่เจริญอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีคุณสมบัติทางการแพทย์ อย่างไรก็ตาม, มีข้อมูลวิจัยบางอย่างที่ชี้ชัดเกี่ยวกับประโยชน์ของเก๋ากี้ที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก ลองมาดูสรรพคุณที่รู้จักกันบ้าง : 1. ช่วยลดน้ำหนัก 2. ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด 3. ส่งผลดีต่อสุขภาพใจ 4. ช่วยลดการอักเสบ 5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 6. ช่วยลดอาการภูมิแพ้.

18. เห็ดหูหนูขาว สรรพคุณ

เห็ดหูหนูขาว (Tremella fuciformis) เป็นเห็ดที่มีคุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: บำรุงผิวพรรณ 2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3. ช่วยในการลดน้ำหนัก 4. บำรุงปอด 5. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 6. ส่งเสริมการย่อยอาหาร 7. ต้านอนุมูลอิสระ 8. บำรุงสมองและระบบประสาท 9. เสริมสร้างการทำงานของตับ.

19. โป่งรากสน สรรพคุณ

โป่งรากสน หรือชื่อวิทยาศาสตร์ Paeonia lactiflora เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในจีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งมีสรรพคุณหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. บรรเทาอาการปวดและการอักเสบ 2. ส่งเสริมสุขภาพผิวพรรณ 3. ปรับสมดุลฮอร์โมน 4. ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด 5. บรรเทาความเครียดและส่งเสริมการนอนหลับ 6. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 7. บำรุงตับ

20. ตังเซียม สรรพคุณ

ตังเซียม (Codonopsis pilosula) เป็นสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดในประเทศจีนและมีการใช้ในแพทย์แผนจีนมายาวนาน มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. เสริมสร้างพลังงานและบำรุงกำลัง 2. บำรุงระบบภูมิคุ้มกัน 3. ช่วยในการย่อยอาหาร 4. บำรุงเลือด 5. ลดความเครียดและเสริมสร้างสมาธิ 6. เสริมสร้างปอดและระบบทางเดินหายใจ 7. ช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ 8.บำรุงผิวพรรณ.

21. ชะเอมเทศ สรรพคุณ

ชะเอมเทศ (Glycyrrhiza glabra) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนจีนและแผนตะวันตกมายาวนาน มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. บรรเทาอาการไอและเจ็บคอ 2. ลดการอักเสบ 3. บรรเทาอาการของแผลในกระเพาะอาหาร 4. ปรับสมดุลฮอร์โมน 5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 6. บำรุงตับ 7. ลดความเครียดและเสริมสร้างสมดุลจิตใจ 8. บำรุงผิวพรรณ 9. ขับปัสสาวะ.

22. เห็ดหลินจือสกัด สรรพคุณ

เห็ดหลินจือ (Ganoderma lucidum) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนจีนมายาวนาน เมื่อถูกสกัดออกมาในรูปแบบของสารสกัดจะมีความเข้มข้นและมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 2. ต้านอนุมูลอิสระ 3. ต้านการอักเสบ 4. ลดความดันโลหิต 5. บำรุงตับ 6. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 7. บำรุงหัวใจและระบบไหลเวียนเลือด 8. บำรุงระบบประสาท 9. เสริมสร้างสุขภาพโดยรวม 10. ช่วยในการนอนหลับ.


13 สมุนไพรฤทธิ์อุ่น (Warm Herb)

สมุนไพรฤทธิ์อุ่น (Warm Herbs) คือสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต เพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกาย และช่วยบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับความเย็นหรือภาวะเย็นในร่างกาย สมุนไพรเหล่านี้มักใช้ในการรักษาอาการเย็นในร่างกาย เช่น อาการหนาวสั่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ และปวดเมื่อย ต่อไปนี้คือรายการสมุนไพรฤทธิ์อุ่นและสรรพคุณของแต่ละชนิด : 1. ขมิ้นชัน 2. โสมเกาหลี 3. เสกตี่ 4. ดอกคำฟอย 5. เซียงจา 6. โตวต๋ง 7. ยอ 8. กานพลู 9. ผักชีล้อม 10. แปะตุ๊ก 11. ปักคี่ 12. ถั่งเช่า 13. พุทราจีน.

23. ขมิ้นชัน สรรพคุณ

ขมิ้นชัน (Curcuma longa) เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้มาอย่างยาวนานในแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินเดีย มีสารสำคัญคือ เคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งมีสรรพคุณทางยาหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. ต้านการอักเสบ 2. ต้านอนุมูลอิสระ 3. บำรุงตับ 4. บำรุงระบบย่อยอาหาร 5. ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส 6. บำรุงผิวพรรณ 7. บำรุงสมอง 8. บรรเทาอาการปวด 9. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 10. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน.

24. โสมเกาหลีสกัด สรรพคุณ

โสมเกาหลี (Korean Ginseng หรือ Panax Ginseng) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนจีนมานานนับพันปี และมีสรรพคุณทางยาหลายประการ โดยเฉพาะในรูปแบบของสารสกัดเข้มข้น มีสรรพคุณดังนี้: 1. เสริมสร้างพลังงานและความทนทาน 2.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3. บำรุงสมองและความจำ 4. ปรับสมดุลฮอร์โมน 5. ลดความเครียดและความวิตกกังวล 6. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 7. ต้านอนุมูลอิสระ 8. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 9. เสริมสร้างระบบย่อยอาหาร 10. บำรุงผิวพรรณ:

25. เสกตี่ สรรพคุณ

เสกตี่ หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Rehmannia glutinosa เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณหลากหลายและถูกใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะในประเทศจีนและประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ต้นเสกตี่มีส่วนที่ใช้ในการรักษาโรค ได้แก่ ราก ซึ่งมีทั้งรากสดและรากแห้งที่มีสรรพคุณแตกต่างกันเล็กน้อย มาดูสรรพคุณหลักของเสกตี่กัน : 1. บำรุงเลือด 2. บำรุงตับและไต 3. ปรับสมดุลฮอร์โมน 4. บำรุงกระดูกและข้อ 5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 6. ลดความดันโลหิต 7. ต้านการอักเสบ 8. บำรุงผิวพรรณ 9. ช่วยในการย่อยอาหาร.

26. ดอกคำฝอย สรรพคุณ

ดอกคำฝอย (Safflower, ชื่อวิทยาศาสตร์: Carthamus tinctorius) เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณและการปรุงอาหาร มีสรรพคุณดังนี้: 1. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 2. ลดความดันโลหิต 3. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน 4. ช่วยขับประจำเดือน 5. ต้านการอักเสบ 6. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 7. ช่วยลดน้ำหนัก 8. บำรุงผิวพรรณ 9. ช่วยบำรุงตับ 10. ขับปัสสาวะ.

27. เซียงจา สรรพคุณ

เซียงจา หรือ Mu Xiang (木香) เป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณและการใช้งานที่หลากหลายในแพทย์แผนจีน สมุนไพรนี้มีรสขมและเผ็ด มีฤทธิ์อุ่น ส่วนที่ใช้ในการทำยาเป็นรากของพืช Aucklandia lappa ต่อไปนี้เป็นสรรพคุณและการใช้งานของเซียงจา: 1.ช่วยย่อยอาหาร 2. ขับลม 3. บรรเทาอาการปวดท้อง 4. แก้ท้องเสีย 5.กระตุ้นการไหลเวียนของพลังงานในร่างกาย.

28. โตวต๋ง สรรพคุณ

โตวต๋ง หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Erythrina variegata เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้กันมานานในภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะในจีนและญี่ปุ่น มีสรรพคุณทางยาหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. บรรเทาอาการปวด 2. ลดการอักเสบ 3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 4. บำรุงตับและไต 5. ลดความดันโลหิต 6. บำรุงกระดูกและฟัน 7. ส่งเสริมการนอนหลับ 8. บำรุงระบบย่อยอาหาร

29. ยอ สรรพคุณ

ยอ หรือ ลูกยอ (Noni) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morinda citrifolia เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณและมีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายประการเกี่ยวกับสรรพคุณทางยาของมัน ลูกยอมีสารประกอบทางเคมีหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น สารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านการอักเสบ และสารเสริมภูมิคุ้มกัน นี่คือสรรพคุณหลักของลูกยอ: 1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 2. ต้านการอักเสบ 3. ต้านอนุมูลอิสระ 4. บำรุงระบบย่อยอาหาร 5. บำรุงผิวพรรณ 6. บำรุงระบบหัวใจและหลอดเลือด 7. บรรเทาอาการปวด 8. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด

30. กานพลู สรรพคุณ

กานพลู (Clove, ชื่อวิทยาศาสตร์: Syzygium aromaticum) เป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอมและมีสรรพคุณทางยาหลายประการ ใช้ในทางการแพทย์และการปรุงอาหารอย่างแพร่หลาย มีสรรพคุณดังนี้: 1. บรรเทาอาการปวดฟันและเหงือก 2. ต้านการอักเสบ 3. ต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา 4. ช่วยย่อยอาหาร 5. ลดอาการไอและเสมหะ 6. บำรุงสุขภาพหัวใจ 7. บำรุงตับ 8. ต้านอนุมูลอิสระ 9. บรรเทาอาการปวดหัว 10. ลดความเครียดและเสริมสร้างสมดุลจิตใจ

31. ผักชีล้อม สรรพคุณ

ผักชีล้อม (Fennel, ชื่อวิทยาศาสตร์: Foeniculum vulgare) เป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยาหลายประการ โดยมีการใช้ทั้งเมล็ด ราก และใบในทางการแพทย์และการปรุงอาหาร มีสรรพคุณดังนี้: 1.ช่วยย่อยอาหาร 2. บรรเทาอาการไอและเสมหะ 3. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 4. บรรเทาอาการปวดท้อง 5.ช่วยลดน้ำหนัก 6. บำรุงหัวใจ 7. บรรเทาอาการปวดกล้ามเนื้อ 8. ช่วยในการขับปัสสาวะ 9. บำรุงผิวพรรณ 10. ช่วยลดอาการปวดประจำเดือน 11. เสริมสร้างสมดุลฮอร์โมน.

32. แปะตุ๊ก สรรพคุณ

แปะตุ๊ก หรือ โกฐน้ำเต้า (Cortex Lycii หรือ Lycium barbarum) เป็นสมุนไพรที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในแพทย์แผนจีนและมีสรรพคุณหลากหลาย ดังนี้: 1. บำรุงสายตา 2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3. บำรุงตับ 4. บำรุงไต 5. ลดน้ำตาลในเลือด 6. บำรุงผิวพรรณ 7. ลดความดันโลหิต 8. ต้านการอักเสบ 9. ช่วยย่อยอาหาร 10. เสริมสร้างพลังงาน.

33. ปักคี้ สรรพคุณ

ปักคี้ หรือ หวงฉี (Astragalus, ชื่อวิทยาศาสตร์: Astragalus membranaceus) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนจีนมาเป็นเวลานาน มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 2. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 3. ต้านอนุมูลอิสระ 4. บำรุงระบบย่อยอาหาร 5. เพิ่มพลังงานและความทนทาน 6. บำรุงตับ 7. ช่วยลดน้ำตาลในเลือด 8. ต้านการอักเสบ 9. ช่วยขับปัสสาวะ 10. บำรุงผิวพรรณ.

34. ถังเช่า สรรพคุณ

ถังเช่า (Cordyceps sinensis หรือ Cordyceps militaris) เป็นสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนจีนมานาน มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. เสริมสร้างพลังงานและความทนทาน 2. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3. บำรุงปอดและระบบทางเดินหายใจ 4. บำรุงตับและไต 5. ปรับสมดุลฮอร์โมน 6.ต้านการอักเสบ 7. เสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศ 8. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 9. ต้านอนุมูลอิสระ 10. ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 11. เพิ่มความจำและการทำงานของสมอง.

35. พุทธาจีน สรรพคุณ

พุทธาจีน หรือพุทราจีน (Chinese date หรือ Jujube, ชื่อวิทยาศาสตร์: Ziziphus jujuba) เป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ทางการแพทย์และสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 2. บำรุงเลือด 3. บำรุงระบบประสาทและช่วยในการนอนหลับ 4. บำรุงผิวพรรณ 5. เสริมสร้างพลังงาน 6. ส่งเสริมการย่อยอาหาร 7. ลดความดันโลหิต 8. เสริมสร้างกระดูกและฟัน 9. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 10. ป้องกันโรคตับ.


4 สมุนไพรฤทธิ์ร้อน ( Hot Herbs )

สมุนไพรฤทธิ์ร้อน (Hot Herbs) คือสมุนไพรที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความร้อนในร่างกาย กระตุ้นการเผาผลาญพลังงาน และช่วยบรรเทาอาการที่เกิดจากความเย็นหรือการหยุดชะงักของพลังงานในร่างกาย สมุนไพรเหล่านี้มักใช้ในการรักษาอาการเย็นในร่างกาย เช่น ความรู้สึกเย็นหนาว เหน็บชา และช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ต่อไปนี้คือรายการสมุนไพรฤทธิ์ร้อนและสรรพคุณของแต่ละชนิด : 1. ขิง 2. กระชายขาว 3. อบเชยจีน 4. กระชายดำ.

36. ขิง สรรพคุณ

ขิง (Ginger) เป็นสมุนไพรที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Zingiber officinale มีการใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในเอเชีย ขิงมีสรรพคุณหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. บรรเทาอาการท้องอืดและท้องเฟ้อ 2. บรรเทาอาการคลื่นไส้และอาเจียน 3. ต้านการอักเสบและลดอาการปวด 4. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 5. ลดระดับน้ำตาลในเลือด 6. ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล 7. ส่งเสริมการทำงานของระบบหัวใจและหลอดเลือด 8. บรรเทาอาการปวดประจำเดือน 9. ช่วยในการลดน้ำหนัก 

37. กระชายขาว สรรพคุณ

กระชายขาว หรือที่รู้จักกันในชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Boesenbergia rotunda เป็นพืชสมุนไพรที่มีการใช้ในทางการแพทย์แผนโบราณและการทำอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีสรรพคุณที่หลากหลายและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ ดังนี้: 1. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน 2. ต้านการอักเสบ 3. ต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส 4. บำรุงระบบย่อยอาหาร 5. บำรุงระบบทางเดินหายใจ 6. บำรุงสุขภาพทางเพศ 7. เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูกและฟัน 8. บำรุงสมองและระบบประสาท

38. อบเชยจีน สรรพคุณ

อบเชยจีน (Chinese Cinnamon หรือ Cassia, ชื่อวิทยาศาสตร์: Cinnamomum cassia) เป็นสมุนไพรที่ใช้ในทางการแพทย์แผนจีนและอาหารมายาวนาน มีสรรพคุณทางยาหลายประการ ดังนี้: 1. บำรุงระบบย่อยอาหาร 2. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด 3. ต้านการอักเสบ 4. ต้านอนุมูลอิสระ 5. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 6. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 7. บรรเทาอาการหวัดและไอ 8. บำรุงผิวพรรณ 9. ช่วยในการลดน้ำหนัก 10. บำรุงสมอง.

39. กระชายดำ สรรพคุณ

กระชายดำ (Black Ginger) หรือที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Kaempferia parviflora เป็นพืชสมุนไพรที่มีถิ่นกำเนิดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย มีการใช้กระชายดำในทางการแพทย์แผนโบราณมาเป็นเวลานาน เนื่องจากมีสรรพคุณหลายประการที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ดังนี้: 1. เสริมสมรรถภาพทางเพศ 2. บำรุงหัวใจและหลอดเลือด 3. บำรุงร่างกายและเพิ่มพลังงาน 4. ต้านการอักเสบและลดอาการปวด 5. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 6. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด 7. บำรุงสมองและระบบประสาท 8. เสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูก 9. ช่วยย่อยอาหาร


15 สรรพคุณสมุนไพร 39 ชนิด ปัณจะภูตะ สรรพคุณ 

  1. ช่วยลดความดันโลหิต
  2. ช่วยลดไขมันในเลือด ลดการอักเสบ
  3. ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน
  4. ช่วยขจัดนิวในทางเดินปัสสาวะ บำรุงไต
  5. ป้องกันมะเร็ง ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง
  6. ช่วยเพิ่มความจำและบำรุงสมอง
  7. ช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
  8. ต้านอนุมูนอิสระ ชะลอความเสื่อมของเซลล์
  9. ช่วยร่างกายกำจัดสารพิษ
  10. ต้านเชื้อโรค แบคทีเรีย เชื้อรา
  11. ช่วยปรับสมดุลระบบคุ้มกันของร่างกาย
  12. ช่วยลดอาการเหนื่อยล้า ช่วยให้กระปรี๊กระเปร่า
  13. ลดความเครียด ช่วยให้นอนหลับ
  14. ช่วยส่งเสริมสมรรถภาพทางเพศ
  15. ปรับสมดุลฮอร์โมนในผู้หญิง ลดปวดประจำเดือน.


ผู้ที่แนะนำ ให้รับประทานสมุนไพร 39 ชนิดได้

โดยให้ทาน สัปดาห์ละ 5วันหยุด 2วัน ต่อเนื่องทุกสัปดาห์ ดังนี้ 1. ผู้ป่วยความดันสูง 2. ผู้ป่วยโลหิตจาง 3. ผู้ป่วยกดไลค์ย้อน 4.ผู้ป่วยเบาหวาน 5. เนื้องอกที่มดลูก / รังไข่ 6. ถุงน้ำที่ปีกมดลูก 7. เนื้องอกที่เต้านม 8. มีแคลเซี่ยมที่เต้านม 9. ผู้ป่วยโรคเกาท์ 10. ผู้ป่วยไทรอยด์ 11. ผู้ป่วยมะเร็ง ( ยกเว้นมะเร็งตับ ).


สมุนไพร 39 ชนิด ปัณจะภูตะ ข้อห้าม  ผู้ที่ไม่แนะนำ ให้รับประทานสมุนไพร 39 ชนิด

  1. ผู้ป่วยโรคตับที่มีค่าเอนไซม์ตับสูง
  2. ผู้ป่วยไขมันพอกตับ
  3. ผู้ป่วยไวรัสตับอักเสบ
  4. ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับ
  5. ผู้ป่วย G6PD
  6. ผู้ป่วยหลังผ่าตัด ( ให้ทาน หลังจากผ่าตัดแล้ว อาการคงที่ดีขึ้นแล้ว)
  7. ผู้ป่วยโรคไตที่มีภาวะไตเสื่อม
  8. ผู้ป่วยโรคนิวในถุงน้ำดี
  9. ผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ
  10. ผู้ที่มีเกร็ดเลือดต่ำเลือดออกง่าย
  11. ผู้ที่ทานยาต้านการแข็งตัวของเลือดและยาละลายลิมเลือด
  12. สตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร
  13. เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี (อายุ 15 ปีขึ้นไปสามารถรับประทานได้).


สมุนไพรยี่ห้อไหนดี

คิดถึงสมุนไพร มั่นใจ ปัณจะ ภูตะ กิฟฟารีน ผลิตภายใต้มาตรฐาน GMP ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อาทิ

  • มีงานวิจัยรองรับและตรวจสอบตามสำคัญครบถ้วนตามปริมาณที่กำหนด
  • วัตถุดิบผ่านการตรวจวิเคราะห์แล้วว่า ปลอดเชื้อ ปลอดสารพิษ ปลอดโลหะหนัก และปราศจากสารปนเปื้อน ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
  • ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อย.อย่างถูกต้อง
  • ผลิตและจัดจำหน่ายโดยบริษัทที่เชื่อถือได้
  • ประทานวันละ 30 ซีซี ซึ่งเป็นปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน.

ปัณจะ ภูตะ น้ำสมุนไพร เทียบกับ แบบแคปซูล อันไหนดีกว่ากัน

ปัณจะ ภูตะ เลือกทานแบบไหน ก็ได้คุณค่าไม่ต่างกัน ปัณจะ ภูตะ ชนิดแคปซูล ทาน 6แคปซูล/วัน  =  ปัณจะ ภูตะ ชนิดน้ำ 30 มล./วัน.


คนทั่วไป ไม่มีโรคประจำตัว ทานปัณจะ ภูตะ (สมุนไพร 39 ชนิด) ได้ไหม

สำหรับคนทั่วไป ที่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว สามารถทานสมุนไพร 39 ชนิด เพื่อดูแลและปกป้องสุขภาพ ได้ดังนี้ 

1.เพื่อบำรุงสุขภาพและป้องกันโรค 2. ปรับสมดุลย์ร่างกาย 3. ขับถ่ายสะดวก 4. คลายเครียด 5. ช่วยในการนอนหลับ 6. เพิ่มคุณภาพชีวิต 7. เพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย 8. เพิ่มความสดชื่นกระปรี้กระเปร่า ลดอาการอ่อนเพลีย 

วิธีทาน สมุนไพร 39 ชนิด ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2ครั้ง พร้อมอาหาร เช้าและเย็น ทานได้อย่างต่อเนื่อง.



ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง ทานปัณจะ ภูตะ (สมุนไพร 39 ชนิด) ได้ไหม

สำหรับกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรังต่างๆ ที่มีการดำเนินโรคแบบค่อยเป็นค่อยไป ทานสมุนไพร 39 ชนิด ได้ เช่น

1. โรคเบาหวาน 2. ความดันโลหิตสูง 3. ไขมันในเลือดสูง 4. โรคอ้วน 5. มะเร็ง 6. โรคหัวใจ 7. อัมพฤกษ์ 8. อัมพาตและอื่นๆ

วิธีทาน สมุนไพร 39 ชนิด ครั้งละ 1 แคปซูล วันละ 2ครั้ง พร้อมอาหาร เช้าและเย็น ทานได้อย่างต่อเนื่อง.



ป่วยเป็นโรคเรื้อรัง ทานปัณจะ ภูตะ (สมุนไพร 39 ชนิด) แบบบำบัด ได้ไหม

สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการบำบัด และบรรเทาอาการเฉียบพลันในระยะสั้น และป้องกันการกลับมาซ้ำในระยะยาว เช่น 1. อาการทางระบบทางเดินหายใจ 2. ภูมิแพ้เฉียบพลัน 3. ไอ 4. อ่อนเพลีย 5. ท้องผูก 6. ปวดข้อ 7. การกำเริบของสะเก็ดเงิน 8. 

บริษัท ธ.ธนาโชติ อินเตอร์ แนชชั่นแนล 1977 จำกัด

รหัสสมาชิก 85021964

เก็บเงินปลายทาง

สั่งเกิน 300 บาทจัดส่งฟรี

สั่งออนไลน์ 24 ชม

สั่งออนไลน์ได้ตลอด

มั่นใจในคุณภาพสินค้า

ของแท้ 100%

มีการรับประกัน

เปลี่ยนตัวใหม่ทันที

สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Fanpage:Pregnancygiffarine

โทร:086-369-5097

แอดไลน์:@thmc

การสมัครสมาชิก

สมัครสมาชิก แบบผู้ใช้สินค้า

  • รับสิทธิ์ ส่วนลดพิเศษทันทีจากผลิตภัณฑ์2000รายการ 
  • มีโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือน
  • สิทธิพิเศษด้านอื่นๆมากมาย

สมัครสมาชิก แบบทำออนไลน์ 

  • รายได้เสริม
  • ธุรกิจออนไลน์

สอบถาม ขอรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 086-369-5097

เว็บไซต์นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการการวินิจฉัย รักษาหรือให้คำแนะนำทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ บริการ ข้อมูลและเนื้อหาอื่นๆ ที่มีให้บนเว็บไซต์รวมถึงข้อมูล ที่อาจปรากฎบนเว็บไซต์โดยตรงหรือโดยการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น จัดทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เกี่ยวกับตัวเลือกการวินิจฉัย หรือการรักษาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์หรือสุขภาพ