ปุ๋ยเกล็ด10-52-17 ( 20กก./กระสอบ) ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีน โกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 ปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยโกรแม็กซ์กิฟฟารีน ปุ๋ยกิฟฟารีน ปุ๋ยสูตรเร่งดอก ปุ๋ยสูตรฟอสฟอรัสสูง ปุ๋ยสร้างดอก ปุ๋ยเร่งราก ปุ๋ย และธาตุรอง ธาตุเสริมพืช

ราคา 7,000 พิเศษ 5,600 บาท

กลุ่มสินค้า ปุ๋ย และธาตุรอง ธาตุเสริมพืช

ปุ๋ยเกล็ด10-52-17 ( 20กก./กระสอบ) ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีน โกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 ปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยโกรแม็กซ์กิฟฟารีน ปุ๋ยกิฟฟารีน ปุ๋ยสูตรเร่งดอก ปุ๋ยสูตรฟอสฟอรัสสูง ปุ๋ยสร้างดอก ปุ๋ยเร่งราก



ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีนโกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 ( 20กก. /กระสอบ) สูตร..

  1. สูตรฟอสฟอรัสสูง
  2. หยุดต้น สร้างดอก พัฒนาราก
  3. ใช้ฉีดเพื่อบำรุงดอก
  4. ป้องกันและผลพวง.


แหล่งวัตถุดิบปุ๋ยกิฟฟารีน

  1. แหล่งวัตถุดิบจากประเทศอิสราเอล
  2. ใช้หินฟอสเฟต เพื่อผลิตแม่ปุ๋ยที่ให้ธาตุฟอสฟอรัส
  3. วัตถุดิบจากทะเลสาบเดดซี ในการผลิตแม่ปุ๋ยที่ให้ธาตุโพแทสเซียม
  4. แม่ปุ๋ยที่ได้จึงมีความสม่ำเสมอเพราะมาจากแหล่งเดียวกัน.

กระบวนการผลิตปุ๋ยกิฟฟารีน

ปุ๋ยโกรแม็กซ์จะผ่านการบดและเนื้อปุ๋ยจะถูกผสมเป็นเนื้อเดียวกัน (Bulk Blend) ตามกระบวนการผลิตในระยะเวลาที่กำหนดที่ห้องควบคุมความชื้น ดังนั้นจะไม่มีสิ่งแปลกปลอมปะปนกันกับปุ๋ย พร้อมทั้งใช้สีผสมอาหารในการแยกปุ๋ยให้เกษตรกรสะดวกในการจำสูตร.

การควบคุมคุณภาพปุ๋ยกิฟฟารีน

  1. ในระหว่างการผลิตปุ๋ยจะถูกกำหนดชุดการผลิตและวันที่ผลิต
  2. ปุ๋ยที่ไม่ผ่านกระบวนการควบคุม (QC) จะถูกคัดออก
  3. ปุ๋ยที่ผ่านกระบวนการควบคุม (QC) จะถูกนำมาบรรจุเพื่อรอจำหน่าย
  4. ปุ๋ยที่จะส่งออกจำหน่าย ชุดการผลิตจะถูกส่งมาตรวจสอบที่ห้องปฏิบัติการของบริษัท (ปัจจุบันอยู่ระหว่างยื่นคำขอรับรองไอเอสโอ 17025 / 2548)
  5. ปุ๋ยที่ผ่านการควบคุมคุณภาพจะถูกส่งเพื่อจำหน่าย.


สูตรปุ๋ยธาตุอาหารหลัก ปุ๋ยเกล็ดโกรแม็กซ์ กิฟฟารีน

1. สูตรเร่งต้น 30-10-10

2. สูตรบำรุงทุกส่วน 15-15-15 / 20-20-20

3. สูตรบำรุงดอก 3-53-17 / 10-52-17

4. สูตรบำรุงลูก 6-20-30


ธาตุอาหารหลักคืออะไร

คือ ธาตุอาหารที่พืชต้องการมาก เป็นธาตุอาหารสำคัญในการดำรงชีวิตของพืช มีบทบาทในการเจริญเติบโตทุกๆ ระยะ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการสังเคราะห์แสง การสังเคราะห์โปรตีน การสร้างแป้งและน้ำตาล เป็นต้น

เสริมความสมบูรณ์ให้ดอกทุเรียน

ระยะไข่ปลา - มะเขือพวง


สะสมอาหาร ยืดขยายช่อดอก ด้วยสูตรเด็ดจากกิฟฟารีน

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 1 ขีด
  3. โกรแม็กซ์ 10-52-17 5 ขีด
  4. เม็กก้าซิงค์ 1 ขีด

อัตราทั้งหมดผสมต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นเน้นที่ใบและดอก

ชุดดึงดอก ของลำใย

"ชุดดึงดอก ยอดเดินไม่ดี ยอดแดงไม่พัฒนา"


หลังพ่นสารโปรแตสเซียมคลอเรตเพื่อบังคับให้ลำใยออกนอกฤดูลงดินครั้งแรก หรือพ่นทางใบครั้งแรก 15 วัน

ต้องพ่นสูตรดึงดอก 2 ครั้งห่างกัน 7 วัน เพื่อทำให้ดอกพัฒนา

  1. เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร
  2. โบโรแคล อัตรา 1 ขีด ต่อน้ำ 200 ลิตร
  3. ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 หรือ สูตร 3-53-17 อัตรา 5 ขีด ต่อน้ำ 200 ลิตร
  4. เจอร์มิเนท อัตรา 250 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

"ชุดบำรุงช่อดอกลำไย"

เกษตรกรสวนลำไย เมื่อลำไยได้ช่อดอกแล้ว ต่อมาบำรุงดอกเพื่อเพิ่มความสมบูรณ์ของดอก ทำให้ดอกลำไยได้ช่อที่ยาว เกสรดอกตัวผู้ และตัวเมียสมบูรณ์


ชุดบำรุงช่อดอกของลำไย ระยะออกดอกแล้ว

พ่นทุก 7 วัน จนถึงช่วงก่อนดอกบาน

  1. เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร
  2. โบโรแคล อัตรา 1 ขีด ต่อน้ำ 200 ลิตร
  3. ปุ๋ยโกรแม็กซ์ 10-52-17 หรือโกรแม็กซ์สูตร 3-53-17 อัตรา 5 ขีด ต่อน้ำ 200 ลิตร
  4. เม็กก้าซิงค์ อัตรา 1 ขีด ต่อน้ำ 200 ลิตร

หมายเหตุ : ระยะดอกแล้ว หากเจอสภาพอากาศร้อน แล้งแนะนำเพิ่ม

ท็อปเอ็น อัตรา 300-500 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร

หมดปัญหาลำไยติดไม่ดี ติดไม่ดก‼ด้วยสูตรสำเร็จ บำรุงลำไย ในระยะลูกเล็ก

ติดดีทั้งช่อ พัฒนาผลเล็ก ไม่หลุดร่วงช่วงฝนนี้!


  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 100 กรัม
  3. โกรแม็กซ์10-52-17 300 กรัม
  4. ท็อปเอ็น 300 ซีซี

ผสมต่อน้ำ 200 ลิตร พ่นทุก 10-15 วัน

สูตรการใช้ปุ๋ยกิฟฟารีนกับสวนมะพร้าว มีทั้งทางดินและทางใบ


สวนมะม่วง จังหวัดพิษณุโลก

กับคุณวิชิต บุญเพ็ง ไดมอนแกรนด์ พาราไดซ์

ทริปนี้คุณวิชิตจะพาเราไปชมสวนมะม่วง ใน จ.พิษณุโลก ที่อยู่ในระยะติดดอก ไปจนถึงลูกเล็ก ซึ่งได้มีการวางแผนกับชาวสวนในการทำมะม่วงทวาย ให้ได้ผลดก ติดผลิตทั้งปี

สูตรการให้ปุ๋ยมะม่วงในระยะนี้

ระยะดอก

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 1 ขีด
  3. 10-52-17 ครึ่งกก.
  4. เม็กก้าซิงค์ 1 ขีด

ระยะลูกเล็ก (เริ่มห่อผล)

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 1 ขีด
  3. 20-20-20 ครึ่งกก.
  4. ท็อปเอ็น 300 ซีซี
  5. เกรทวอลล์ 50 ซีซี

อัตราต่อน้ำ 200 ลิตร


“สวนละมุด” ผลผลิตจากกิฟฟารีน ที่ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี

สวนละมุดก่อนหน้านี้มีปัญหาต้นเหลือง ต้นโทรม หลังจากได้ใช่ปุ๋ยกิฟฟารีนตามสูตรตามระยะ ประมาณ 1 เดือน เห็นผลชัดเจน

ละมุดผลัดใบใหม่ ต้นกลับมาเขียวขึ้น

ละมุด ปัญหาหลักที่เจอ คือ ดอกร่วงช่วงฝนชุก ดังนั้นหากเราบำรุงด้วยปุ๋ยสูตร 10-52-17 และใช้โบโรแคล อย่างต่อเนื่องจะช่วยลดการร่วงได้ อีกปัญหา คือ ช่วงที่ร้อนและแล้ง ละมุดจะสลัดลูกและโตช้า แนะนำ ท็อปเอ็น (30-0-0) จะช่วยให้ละมุดได้ N อย่างต่อเนื่องสามารถโตช่วงร้อนได้ดี และใช้ปุ๋ยบำรุงอย่างสม่ำเสมอจนเก็บเกี่ยวผลผลิต เก็บได้ลูกเบอร์โต ราคาดีแน่นอน

สูตรปุ๋ยกิฟฟารีน ช่วงบำรุงต้น (หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตและตัดแต่งกิ่งแล้ว)

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 1 ขีด
  3. โกรแม็กซ์ 15-15-15 5 ขีด
  4. เม็กก้าซิงค์ 1 ขีด
  5. เทอร์โบไทโอแม็ก 200 ซีซี

ผสมต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบทุก 7-10 วัน


#ลุยทุกไร่ไปทุกสวน วันนี้พามาชม “ ดาวเรือง “ ที่ อ.พบพระ จ.ตาก

สวนดาวเรืองของคุณสายชล โพธิบาย ซึ่งได้ใช้ปุ๋ยกิฟฟารีนมาแล้ว 4 ปี

ปลูกรอบนี้ดาวเรืองเจออากาศร้อน แล้ง แต่ใช้ปุ๋ยกิฟฟารีนแล้วเก็บผลผลิตได้อย่างต่อเนื่อง ไปชมพร้อมๆกันเลยนะคะ

การพ่นปุ๋ยทางใบของกิฟฟารีน (อัตราต่อน้ำ 200 ลิตร) พ่นทุกๆ 7-10 วัน

บำรุงต้นก่อนออกดอก

  1. เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี
  2. โบโรแคล อัตรา 1 ขีด
  3. ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 20-20-20 อัตรา 5 ขีด
  4. เม็กก้าซิงค์ อัตรา 1 ขีด
  5. ท็อปเอ็น อัตรา 300 ซีซี
  6. บลู คีเลต อัตรา 50 ซีซี

เริ่มออกดอก

  1. เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี
  2. โบโรแคล อัตรา 1 ขีด
  3. ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 อัตรา 5 ขีด
  4. เม็กก้าซิงค์ อัตรา 1 ขีด
  5. ท็อปเอ็น อัตรา 300 ซีซี
  6. บลู คีเลต อัตรา 50 ซีซี

หมายเหตุ : พ่น 2-3 ครั้งในช่วงดาวเรืองเริ่มออกดอก พอเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตจะใช้ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 20-20-20 สลับกับปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 6-20-30

ระยะเก็บดอก บำรุงต้นและดอก

  1. เกรทกรีน อัตรา 30 ซีซี
  2. โบโรแคล อัตรา 1 ขีด
  3. ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 20-20-20 อัตรา 5 ขีด

สลับกับ

  1. ปุ๋ยโกรแม็กซ์ สูตร 6-20-30
  2. เม็กก้าซิงค์ อัตรา 1 ขีด
  3. ท็อปเอ็น อัตรา 300 ซีซี
  4. บลู คีเลต อัตรา 50 ซีซี

ดาวเรืองปลูกในฤดูแล้ง ซึ่งอากาศร้อนอบอ้าว จะเสริมเจอร์มิเนท อัตรา 250 ซีซี ผสมร่วมกับปุ๋ยเป็นครั้งคราวเพื่อกระตุ้นดาวเรืองช่วงที่แล้งจัด


“กระเทียม” ปุ๋ยกิฟฟารีน หัวใหญ่ๆ ได้น้ำหนัก ไซส์จัมโบ้ ไม่ฝ่อ

คุณภาพเน้นๆ ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก

วันนี้ลุยทุกไร่ ไปทุกสวน พามาชมไร่กระเทียมของคุณพัฒน์ ปลูกอยู่ประมาณ 3 ไร่ เก็บรอบนี้เฉลี่ยได้ไร่ละประมาณ 2000 กิโลกรัม โอ้โหหห สุดยอดไปเลยค่ะ คุณพัฒน์ใช้ปุ๋ยกิฟฟารีนมา 10 กว่าปีแล้ว บอกเลยได้ผลผลิตดีทุกปีคุณพัฒน์ประทับใจมากๆ วันนี้เก็บภาพมาให้ชมกันนะคะ

ใครอยากได้กระเทียมคุณภาพ ตามมาใช้สูตรปุ๋ยกิฟฟารีนกับกระเทียมกันเลยค่ะ

ก่อนลงหัวปลูกใช้เจอร์มิเนท 100 ซีซี ผสมต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นไปที่กลีบกระเทียมคลุกเคล้าให้ทั่ว แล้วห่อด้วยผ้าขาวบางทิ้งไว้ 1 คืน

สูตรปุ๋ยกิฟฟารีนกับกระเทียม

ผสมฉีดต่อน้ำ 200 ลิตร

ช่วงระยะแรก บำรุงต้นหลังปลูกไปแล้ว 20 วัน ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน ฉีดพ่น 2 ครั้ง

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 100 กรัม (1 ขีด)
  3. โกรแม็กซ์ 30-10-10 500 กรัม (5 ขีด)
  4. เม็กก้า-ซิงค์ 500 กรัม (5 ขีด)
  5. ท็อป-เอ็น 30-0-0 500 ซีซี
  6. บลูคีเลต 30 ซีซี

ช่วงที่ 2 ระยะบำรุงต้นและใบ หลังจากปลูก 30 วัน ฉีดพ่นทุก 7-10 วัน ฉีดพ่น 2 ครั้ง

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 100 กรัม (1 ขีด)
  3. โกรแม็กซ์ 20-20-20 500 กรัม (5 ขีด)
  4. เม็กก้า-ซิงค์ 500 กรัม (5 ขีด)
  5. บลูคีเลต 30 ซีซี

ช่วงที่ 3 ระยะเตรียมต้นก่อนลงหัว หลังจากปลูก 60 วัน ฉีดพ่นทุกๆ 7-10 วัน

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 100 กรัม (1 ขีด)
  3. โกรแม็กซ์ 10-52-17 500 กรัม (5 ขีด)
  4. บลูคีเลต 30 ซีซี

ช่วงสุดท้าย ช่วงลงหัว อายุประมาณ 75 วัน ฉีดพ่นทุกๆ 7-10 วัน จนเก็บเกี่ยว

  1. เกรทกรีน 30 ซีซี
  2. โบโรแคล 100 กรัม (1 ขีด)
  3. โกรแม็กซ์ 6-20-30 500 กรัม (5 ขีด)
  4. ไบรท์กรีน 50 ซีซี
  5. บลูคีเลต 30 ซีซี

หมายเหตุ : การให้น้ำ ช่วงลงหัวปลูกในระยะแรกให้น้ำวันเว้นวัน ให้นาน 20 นาที วันละ 1 ครั้ง หลังจากเข้าสู่ช่วงบำรุงต้นหลังปลูก 20 วัน ให้น้ำ 3 วันครั้ง ให้นาน 20 นาที วันละ 1 ครั้ง


GREEN TRIP โดยมิสเตอร์เกรทกรีน

"แคนตาลูป" อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กับการใช้ปุ๋ยกิฟฟารีน

ชาวสวนแคนตาลูปฟังทางนี้ วันนี้มิสเตอร์เกรทกรีน ขอนำเสนอการเยี่ยมสวนแคนตาลูป จากการใช้ปุ๋ยกิฟฟารีน เทคนิคการดูแลแคนตาลูปและความประทับใจจากเกษตรกรที่ได้ใช้จริง ไปชมกันค่ะ.


ผลผลิตข้าวนาปรัง ที่อยุธยา จากปุ๋ยกิฟฟารีน


ปุ๋ยกิฟฟารีนประโยชน์ ปุ๋ยเกล็ด บำรุงทางใบ

ปุ๋ยเกล็ด (หรือปุ๋ยเคมีเกล็ด) ที่ใช้บำรุงทางใบมีประโยชน์มากมายสำหรับพืช โดยเฉพาะในการเสริมสร้างการเจริญเติบโตและความแข็งแรงของพืชผ่านทางใบ นี่คือประโยชน์หลักของการใช้ปุ๋ยเกล็ด:

1. การดูดซึมสารอาหารที่รวดเร็ว : ปุ๋ยเกล็ดสามารถถูกดูดซึมได้อย่างรวดเร็วผ่านทางใบ ทำให้พืชได้รับสารอาหารอย่างทันท่วงที เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ปุ๋ยที่ปลูกในดิน

2. เสริมสร้างการเจริญเติบโต : การใช้ปุ๋ยเกล็ดช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความสามารถในการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะในช่วงที่พืชต้องการสารอาหารเพิ่มเติมเพื่อการเติบโตที่รวดเร็ว

3. การป้องกันปัญหาขาดสารอาหาร : หากพืชแสดงอาการขาดสารอาหาร (เช่น ใบเหลือง, ใบไหม้) การใช้ปุ๋ยเกล็ดสามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว

4. การเพิ่มความต้านทานโรค : พืชที่ได้รับสารอาหารครบถ้วนมักมีความต้านทานโรคและแมลงที่ดีขึ้น

5. การปรับปรุงผลผลิต : การให้ปุ๋ยเกล็ดช่วยเพิ่มผลผลิตของพืช เช่น ผลไม้, ดอกไม้ หรือผลผลิตจากพืชต่าง ๆ

6. ใช้งานง่าย : การใช้ปุ๋ยเกล็ดสามารถทำได้ง่ายและสะดวก โดยสามารถฉีดพ่นลงบนใบพืช ซึ่งไม่ต้องการการเตรียมการพิเศษ


การใช้ปุ๋ยเกล็ดควรใช้คู่กับสารจับใบ +โบโรแคล และทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต และตรวจสอบสภาพพืชเพื่อปรับปริมาณและความถี่ในการใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของพืชแต่ละชนิด


ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีนโกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 อัตราการใช้ : 50 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ 500 กรัม (ครึ่งกิโลกรัม) ต่อน้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 7-10 วัน


ปุ๋ยเกล็ดกิฟฟารีน โกรแม็กซ์ สูตร 10-52-17 20 กิโลกรัม ราคา.

ปริมาณบรรจุ : 20 กิโลกรัม น้ำหนักรวม : 20 กิโลกรัม จำนวน : 1 กระสอบ ราคา 7,000 บาท

บริษัท ธ.ธนาโชติ อินเตอร์ แนชชั่นแนล 1977 จำกัด

รหัสสมาชิก 85021964

เก็บเงินปลายทาง

สั่งเกิน 300 บาทจัดส่งฟรี

สั่งออนไลน์ 24 ชม

สั่งออนไลน์ได้ตลอด

มั่นใจในคุณภาพสินค้า

ของแท้ 100%

มีการรับประกัน

เปลี่ยนตัวใหม่ทันที

สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

Fanpage:Pregnancygiffarine

โทร:086-369-5097

แอดไลน์:@thmc

การสมัครสมาชิก

สมัครสมาชิก แบบผู้ใช้สินค้า

  • รับสิทธิ์ ส่วนลดพิเศษทันทีจากผลิตภัณฑ์2000รายการ 
  • มีโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือน
  • สิทธิพิเศษด้านอื่นๆมากมาย

สมัครสมาชิก แบบทำออนไลน์ 

  • รายได้เสริม
  • ธุรกิจออนไลน์

สอบถาม ขอรายละเอียดเพิ่มเติม โทร 086-369-5097

เว็บไซต์นี้ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการการวินิจฉัย รักษาหรือให้คำแนะนำทางการแพทย์ ผลิตภัณฑ์ บริการ ข้อมูลและเนื้อหาอื่นๆ ที่มีให้บนเว็บไซต์รวมถึงข้อมูล ที่อาจปรากฎบนเว็บไซต์โดยตรงหรือโดยการเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ของบุคคลที่สามนั้น จัดทำขึ้นเพื่อจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น โปรดปรึกษาแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์อื่นๆ เกี่ยวกับตัวเลือกการวินิจฉัย หรือการรักษาที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์หรือสุขภาพ