นูทริโฟลิค กิฟฟารีน วิตามินบำรุงเลือด บำรุงครรภ์ วิตามินแก้เลือดจาง ธาลัสซีเมีย สร้างเม็ดเลือดแดง วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี6 วิตามินบี12 โฟลิค 60 แคปซูล (ทานได้ทุกวัย) Folic Giffarine บำรุงเลือด เลือดจาง ธาลัสซีเมีย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี6 วิตามินบี12 และกรดโฟลิค

ช่วยสร้างเม็ดเลือดแดง บำรุงครรภ์ บำรุงผิว บำรุงสายตา ดูแลแก้ปัญหาเลือดจาง ธาลัสซีเมีย อ่อนเพลีย 

 โฟลิค (Folic Acid ) คืออะไร

โฟลิก (Folic Acid) เป็นรูปแบบสังเคราะห์ของวิตามินบี 9 ที่จำเป็นสำหรับการสร้างเซลล์ใหม่ การผลิตเม็ดเลือดแดง และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ การได้รับโฟลิกในปริมาณที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันภาวะขาดโฟลิกและความผิดปกติแต่กำเนิดในทารก อาหารหลากหลายชนิดมีโฟลิก รวมถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีการเสริมโฟลิกสำหรับหญิงตั้งครรภ์ 

แหล่งอาหารที่มีโฟลิก

โฟลิกพบได้ในอาหารหลายชนิด เช่น:

ผักใบเขียว เช่น ผักโขม, บรอกโคลี, ผักกาดหอม

ผลไม้ เช่น ส้ม, กล้วย, เลมอน

ถั่วและเมล็ดพืช เช่น ถั่วลันเตา, ถั่วเหลือง, เมล็ดทานตะวัน

ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง, ข้าวโอ๊ต

อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์ที่มีการเสริมโฟลิก เช่น ซีเรียล, ขนมปัง

โฟลิก(Folic Acid )เรื่องช่วยอะไร

1.มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการสร้างเม็ดเลือดแดง

2.ป้องกันโรคโลหิตจาง

3.ป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์

4.จำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์

5.บำรุงสุขภาพ

6.ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

7.ดูแลสุขภาพผู้ป่วยธาลัสซีเมียและพาหะธาลัสซีเมีย

คุณสมบัติและบทบาทของโฟลิกในร่างกาย

การสร้างเซลล์และดีเอ็นเอ: โฟลิกมีบทบาทสำคัญในการสังเคราะห์และซ่อมแซมดีเอ็นเอ รวมถึงการสร้างเซลล์ใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนาของร่างกาย

การสร้างเม็ดเลือดแดง: โฟลิกมีส่วนช่วยในการผลิตเม็ดเลือดแดง ซึ่งมีหน้าที่ในการขนส่งออกซิเจนไปยังส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย การขาดโฟลิกอาจนำไปสู่ภาวะโลหิตจาง

การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์: โฟลิกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ช่วยป้องกันความผิดปกติแต่กำเนิดในระบบประสาท เช่น spina bifida

ความสำคัญของโฟลิกในช่วงการตั้งครรภ์

การได้รับโฟลิกในปริมาณที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพื่อป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์:

การป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท (Neural Tube Defects): ความผิดปกติเหล่านี้อาจเกิดขึ้นในระยะแรกของการตั้งครรภ์ ดังนั้น การเสริมโฟลิกก่อนและในระหว่างการตั้งครรภ์เป็นสิ่งสำคัญ

ปริมาณที่แนะนำ: แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์รับประทานโฟลิกเสริมวันละ 400-800 ไมโครกรัม

การขาดโฟลิกส่งผลต่อร่างกายอย่างไร

การขาดโฟลิกอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น:

โลหิตจางจากการขาดโฟลิก (Folic Acid Deficiency Anemia): เกิดจากการผลิตเม็ดเลือดแดงที่ไม่เพียงพอ ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย และหายใจลำบาก

ปัญหาด้านการเจริญเติบโตและพัฒนาการ: ในหญิงตั้งครรภ์ การขาดโฟลิกอาจทำให้ทารกมีความเสี่ยงสูงต่อความผิดปกติแต่กำเนิด

โฟลีก(Folic)มีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเลือดจางและผู้ป่วยทาลัสซีเมียอย่างไร

โฟลิก (Folic Acid) มีประโยชน์สำคัญต่อผู้ป่วยเลือดจางและผู้ป่วยทาลัสซีเมียเนื่องจากมีบทบาทในการสร้างและซ่อมแซมเซลล์เม็ดเลือดแดง ต่อไปนี้คือรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของโฟลิกต่อผู้ป่วยกลุ่มนี้:

ประโยชน์ของโฟลิกต่อผู้ป่วยเลือดจาง

1. ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง

โฟลิกมีบทบาทสำคัญในการสร้างดีเอ็นเอและอาร์เอ็นเอ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จำเป็นในการผลิตเม็ดเลือดแดงใหม่ การขาดโฟลิกจะทำให้การสร้างเม็ดเลือดแดงไม่เพียงพอ และอาจนำไปสู่โลหิตจางจากการขาดโฟลิก (Folic Acid Deficiency Anemia)

2. ปรับปรุงอาการโลหิตจาง

การเสริมโฟลิกสามารถช่วยเพิ่มจำนวนเม็ดเลือดแดงในผู้ป่วยที่มีภาวะโลหิตจางจากการขาดโฟลิก ทำให้อาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า และหายใจลำบากลดลง

ประโยชน์ของโฟลิกต่อผู้ป่วยทาลัสซีเมีย

ทาลัสซีเมียเป็นโรคเลือดที่เกิดจากความผิดปกติในการสร้างเฮโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งส่งผลให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลายเร็วกว่าปกติ ผู้ป่วยทาลัสซีเมียมักมีภาวะโลหิตจางเรื้อรัง

1.เสริมสร้างเม็ดเลือดแดง

ผู้ป่วยทาลัสซีเมียต้องการสารอาหารมากขึ้นในการสร้างเม็ดเลือดแดงเพื่อทดแทนเม็ดเลือดแดงที่ถูกทำลาย โฟลิกช่วยในการสังเคราะห์ดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นกระบวนการที่จำเป็นในการผลิตเม็ดเลือดแดงใหม่

2.ลดความรุนแรงของภาวะโลหิตจาง

การเสริมโฟลิกสามารถช่วยลดความรุนแรงของภาวะโลหิตจางในผู้ป่วยทาลัสซีเมีย โดยช่วยให้ร่างกายมีเม็ดเลือดแดงใหม่เพียงพอที่จะทดแทนเม็ดเลือดแดงที่ถูกทำลาย

3.ปรับปรุงคุณภาพชีวิต

การเสริมโฟลิกช่วยให้ผู้ป่วยทาลัสซีเมียมีพลังงานและความแข็งแรงมากขึ้น ลดอาการอ่อนเพลีย และปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวม

ผู้ป่วยเลือดจางและทาลัสซีเมียกินอะไรดี

1. อาหารที่มีโฟลิกสูง: การรับประทานอาหารที่มีโฟลิกสูงเป็นวิธีธรรมชาติในการเพิ่มปริมาณโฟลิกในร่างกาย อาหารที่มีโฟลิกสูง ได้แก่ ผักใบเขียว, ผลไม้, ถั่ว, และธัญพืชเต็มเมล็ด

2. อาหารเสริมโฟลิก: ในบางกรณี แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารเสริมโฟลิก เพื่อให้ได้ปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีความต้องการโฟลิกสูง

วิตามินบำรุงเลือดยี่ห้อไหนดี

แนะนำ Nutri Folic Giffarine เราคัดสรรวัตถุดิบคุณภาพสูง จากแหล่งที่ดีที่สุด ได้รับการยอมรับจากสถาบันระดับโลก 

1. มีโฟลิกคุณภาพสูง 200 ไมโครกรัมต่อแคปซูลสูงสุดที่ออยอนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

2. โฟลิกวัตถุดิบคุณภาพสูง นำเข้าจาก DSM ประเทศสวิตเซอร์แลนด์  

3. วัตถุดิบได้รับการรับรอง Halal

4. ผลิตจากโรงงานที่มีมาตรฐาน GMP และ Halal

Nutri Folic Giffarine โฟลิก กิฟฟารีน มีจุดเด่น และ แตกต่างจากโฟลิกทั่วไปอย่างไร

1.โพลิกคุณภาพสูง ให้ผลข้างเคียงต่อสุขภาพในระยะยาวน้อย (โฟลิกทั่วไป อาจมีผลคลื่นไส้อาเจียนในบางราย)

2. มี4วิตามิน คือ B1,B6,b12 และ วิตามิน C

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล (450 มิลลิกรัม):

วิตามินซี 60 มก.

วิตามินบี 6 2 มก.

วิตามินบี 12 0.1% 2 มก.(ให้วิตามินบี 12 2 มคก.)

วิตามินบี 1 1.5 มก.

กรดโฟลิค 0.2 มก.

ปริมาณบรรจุ: 60.00 แคปซูล

น้ำหนักรวม: 50.00 กรัม

จำนวน: 1 ชิ้น

วิธีใช้

รับประทานวันละ 1 -2 แคปซูล พร้อมอาหาร

เลขที่ อย. / จดแจ้ง: 13-1-03337-1-0123